ผ่านมากว่า 14 วันแล้ว สำหรับการติดตามการรักษาลูกช้างป่า เพศผู้ ชื่อเดือน ที่พลัดหลงโขลง ที่บ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติทับลาน เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่และสัตวแพทย์ ได้มีการประเมินอาการ วางแผนการรักษา และเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
ในวันแรกที่เจอลูกช้างป่า จากการประเมินคาดว่า ลูกช้างมีอายุไม่เกิน 1 เดือน มีอาการค่อนข้างอิดโรย มีแผลถลอกตามร่างกาย ทั้งยังพบว่าสะดือยังไม่ปิด มีความลึกประมาณ 1 นิ้ว และมีหนองเล็กน้อย ทั้งยังมีอาการเจ็บขาหลัง ซึ่งถือว่ายังมีอาการน่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่จึงได้เคลื่อนย้ายไปทำการรักษา ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ทล.8 (ตลิ่งชัน) ก่อนทำการเอ็กซเรย์บริเวณขาที่เจ็บ พบว่ามีกระดูกแตกหักที่บริเวณขาหลังข้างขวา
ทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ ได้วางแผนการรักษาและฟื้นฟูร่างกายลูกช้าง โดยรักษาตามอาการ ทำแผล ล้างสะดือ ให้ยาลดปวดและเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด กระทั่งวันที่ 15 พ.ย.66 ที่ผ่านมา สัตวแพทย์ได้ลงความเห็นว่า ควรรรักษากระดูกที่แตกหักโดยการใส่เฝือกแทนการผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง ซึ่งสภาพร่างกายของลูกช้างยังไม่พร้อมสำหรับการผ่าตัด อาจทำให้การรักษาเป็นไปได้ช้า และได้ดำเนินการรักษาโดยการใส่เฝือกในวันที่ 17 พ.ย.
ตั้งแต่วันแรกที่เจอลูกช้าง กระทั่งเข้ารับการรักษา ทีมสัตวแพทย์มีการอัปเดตอาการและประเมินอาการลูกช้างวันต่อวัน ซึ่งอาการล่าสุดในวันนี้ (22 พ.ย. 66) น้องเดือนได้ใส่เฝือกรักษากระดูกที่แตกหักเรียบร้อยแล้ว และมีการทำความสะอาดเฝือกทุกวัน มีการทำความสะอาดสะดือ พบว่ามีโพรงแคบลง ทำความสะอาดแผลที่เกิดจากการกดทับ สัตวแพทย์ได้พาลูกช้างเดินเล่นแต่ยังคงต้องใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงตลอดเวลา โดยยกสองขาหลังเหนือพื้นเล็กน้อย ในส่วนของอาการอื่นๆ พบว่า ลูกช้างมีความอยากกินนมปกติ อุจจาระน้อยและเหลว ปัสสาวะปกติ พบอาการท้องอืดเป็นบางช่วง ผลการตรวจโรคเฮอร์ปีร์ไวรัสในช้าง มีผลเป็นลบ
จากการรักษากว่า 14 วัน น้องเดือนฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น ยังคงตื่นตัวกับสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ แต่ยังคงมีอาการอื่นๆ แทรกซ้อนเล็กน้อย ซึ่งสัตวแพทย์ยังต้องดูแลใกล้ชิดและประเมินอาการวันต่อวัน แต่ถ้าเทียบกันแล้ว น้องเดือนสดใสขึ้นมาก ขอเป็นกำลังใจให้น้องเดือนหายไวๆ นะคะ สู้ๆ นะน้องเดือน