สธ.จ่อปรับโควิดออกจากโรคติดต่ออันตราย

กระทรวงสาธารณสุข จ่อลดสถานะโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็น โรคติดต่อเฝ้าระวัง

วันนี้ (8 ส.ค.65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2565 ซึ่งที่มีการหารือใน 4 ประเด็นสำคัญ ดังนี้

1.คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มีมติเห็นชอบนโยบายและการปฏิบัติในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการหลังการระบาดใหญ่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโรคในปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยสามารถควบคุมการระบาดได้ ลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย และมีระบบการสาธารณสุขที่รองรับได้

ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหารจัดการหลังการระบาดใหญ่ (Post Pandemic) มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการบริหารยา วัคซีน เวชภัณฑ์ ซึ่งได้สื่อสารให้โรงพยาบาลในสังกัดต่าง ๆ เตรียมการจัดหายาต้านไวรัสเอง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยใช้กระบวนการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนเช่นเดียวกับโรคติดเชื้ออื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนยังสามารถเข้ารับการรักษาได้ตามสิทธิ์

2.คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยกเลิกชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตราย พ.ศ. …. และร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่อ ที่ต้องเฝ้าระวัง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….โดยได้พิจารณาปรับโรคโควิด 19 จากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง

3. คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ รับทราบสถานการณ์ และการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด 19 ซึ่งพบแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และประชาชนเริ่มมีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลรักษา อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยังคงเน้นให้ทุกจังหวัดเตรียมพร้อมเรื่องเตียง การใช้ยาอย่างเหมาะสม และการฉีดวัคซีน รวมถึงให้โรงพยาบาลพิจารณาการใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (Long Acting Antibody : LAAB) ซึ่งกระจายไปยังจังหวัดต่าง ๆ และกรุงเทพมหานครแล้ว

4.โรคฝีดาษวานร ปัจจุบันพบผู้ป่วยยืนยันในประเทศไทยแล้ว 4 ราย ซึ่งประเทศไทยได้มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด ทั้งที่สนามบิน สถานพยาบาล ชุมชนแหล่ง ท่องเที่ยว โดยได้มีการสั่งวัคซีนป้องกันฝีดาษมาใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ผู้ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ แบบ pre-exposure prophylaxis และ ผู้มีความเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยแบบ post-exposure prophylaxis

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตประจำวันโดยยึดหลัก ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิดอย่างปลอดภัยเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด 19 จะคล้ายคลึงกับไข้หวัดใหญ่ พบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปีอาจมีการระบาดในบางช่วงเวลา ซึ่งการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตมักเกิดกับกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนและกลุ่มเสี่ยง 608 โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตัวเอง ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น กินอาหารร้อนปรุงสุก ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งโรคโควิด 19 และฝีดาษวานร นอกจากนี้ให้หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ที่มีอาการเข้าข่ายของโรคฝีดาษวานร โดยเฉพาะผู้ที่มีผื่น ตุ่ม หนอง ตามผิวหนัง หรือคนแปลกหน้า งดการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่รู้จักเพราะมีความเสี่ยง หากสงสัยว่ามีอาการป่วยเข้าข่าย สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจหาเชื้อได้ทันที

คลิปแนะนำอีจัน
รีวิวของถูก ยุคนี้ ทำกันได้ลงคอ!