จันได้อ่านเรื่องราว เจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ในเว็บไซต์ พันทิป
เธอซื้อบ้านเดี่ยวมือสอง แต่เจ้าของคนเก่าได้ต่อเติมบ้านไปชิดกับอีกบ้านหนึ่ง จนเกิดเป็นศึกการต่อเติมระหว่างเพื่อนบ้านค่ะ
เจ้าของกระทู้คนนี้เล่าว่า
“สวัสดีค่ะ มีเรื่องจะรบกวนสอบถาม
เนื่องจากได้ซื้อบ้านเดี่ยว 60 ตารางวา มือสอง หลังหนึ่งมาจากธนาคารสีฟ้า
เจ้าของคนเก่าได้ต่อเติมห้องด้านหลังไปชิดกำแพง และทางเราได้ทุบออกแล้ว
พบว่าเพื่อนบ้านด้านหลังบ้าน ต่อเติมออกมาเป็น 2 ชั้นชิดกำแพง
หลังจากที่ได้สอบถามไปเขาบอกว่าเจ้าของบ้านเราทำก่อน
และได้โทรขออนุญาตเจ้าของบ้านคนเก่าแล้ว ทั้งเรื่องต่อเติมและเขามาทำในเขตบ้าน (เจ้าของย้ายออกไปนานแล้ว เนื่องจากบ้านโดนยึด)
เจรจา ครั้งที่ 1 กลางเดือนสิงหาคม
ให้เขาแก้ไข ปล่องลม เครื่องดูดควัน เวลาเขาทำกับข้าว กลิ่นไปถึงหน้าบ้านเรา เขาบอกจะแก้ให้
รางน้ำด้านบนมีรูรั่ว น้ำหยดลงบ้านเรา เขาบอกจะแก้ให้
ให้เขาปิดช่องแสง บล็อกแก้ว เขาบอกให้ช่างที่ปรับปรุงบ้านเราทาสีทับเลย (ซึ่งเราไม่ทำ มันบ้านเขา)
ให้แก้ไขรางน้ำบนกำแพง เขาบอกให้ช่างเราเอาออกได้เลย (ซึ่งเราไม่ทำ มันฝั่งอยู่ในกำแพงเขา)
ให้เขาแก้ไขหน้าต่างบานเลื่อนให้เป็นกำแพงทึบ เขาไม่ตอบรับ บอกบ้านเราก็ต้องมีผ้าม่าน ปิดไปก็มองไม่เห็น ต่างคนต่างอยู่
เจรจา ครั้งที่ 2 ปลายเดือนกันยายน (โทรคุย)
บอกว่าฝนสาดกำแพงเขาแล้วไหลลงฝั่งบ้านเราหมดเลย ให้แก้ไขทำรางน้ำเหมือนอีกฝั่ง เขาบอกว่าฝนตกจากฟ้าก็ต้องลงบ้านเป็นธรรมดา
นัดเจรจา พร้อมให้นิติ มาเป็นพยาน เดือนตุลา
อีกฝั่งขวาของบ้านเขาทำชิดกำแพงอีกหลังเหมือนกันแต่มีรางน้ำ
เจรจา ครั้งที่ 3
โทรมาเลื่อนบอกว่าวิศวกรไม่สบายเข้าโรงพยาบาล
14 ตุลาคม โทรมาบอกว่า ทางวิศวกร จะเข้ามาแก้ไข วันที่ 4 พฤศจิกายน แต่ไม่ได้บอกว่าจะแก้อะไรบ้าง
ปัจจุบัน บ้านเราได้แก้ไขพื้นที่ติดกับกำแพงแล้วโดยการ แย็กปูนออก ห่างจากกำแพง และต่อหลังคา เว้นระยะ 50 ซม.
อยากสอบถามว่าสิ่งที่เราขอไปตามที่เจรจาครั้งที่ 1 มากไปไหมคะ และที่เขาบอกว่าโทรไปขออนุญาตคนเก่าแล้วมีสิทธิ์อ้างไหมคะ
ถ้าเขาไม่ทำตามขั้นตอนฟ้อง อบต. ต้องทำยังไง บ้านอยู่บางพลี สมุทรปราการ
ชาวพันทิปแนะนำเจ้าของกระทู้ว่า หากเจรจาไม่เป็นผล ควรแจ้ง อบต. เพื่อให้ดำเนินตามกฎหมาย
อีจันหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมายในการต่อเติมบ้าน และบทลงโทษมาให้อ่านกันค่ะ
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการต่อเติมบ้าน โดยตรง ก็คือ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21 และ 39 ทวิ ซึ่งสรุปเอาไว้ให้เข้าใจง่าย คือ การจะดัดแปลง ต่อเติมอาคาร ต้องแจ้ง และต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานท้องถิ่นก่อนเสมอ (ตามมาตรา 21) พร้อมกับ ต้องยื่นแบบแปลน รวมถึง ชื่อสถาปนิกและวิศวกรที่ควบคุมงาน ให้เจ้าพนักงานทราบ (ตามมาตรา 39 ทวิ) พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร กำหนดให้การก่อสร้าง/ต่อเติมต้องมีระยะห่างระหว่างอาคาร เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและป้องกันการรบกวนบุคคลในพื้นที่ข้างเคียง
ระยะห่างระหว่างอาคารสำหรับการต่อเติมบ้าน
อาคารชั้นเดียว จนถึงอาคารที่มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร เช่น พื้นที่หลังบ้าน ระเบียงชั้น 2
ระยะห่างผนัง กรณีผนังมีช่องเปิด (ช่องเปิด หมายถึง หน้าต่าง ช่องลม ช่องที่แสงสามารถส่องผ่านได้) ต้องเว้นระยะห่างจากแนวเขตที่ดินข้างเคียง ไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร
ระยะห่างผนัง กรณีผนังทึบ ต้องเว้นระยะห่างจากแนวเขตที่ดินข้างเคียง ไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร
*ยกเว้น เจ้าของพื้นที่ข้างเคียงมีหนังสือยินยอมให้สร้างได้ (ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 55 ข้อ 50)
ระยะห่างชายคา/กันสาด ชายคาต้องห่างจากแนวเขตไม่น้อยกว่า 0.5 เมตร เท่ากันกับกรณีผนังทึบ
ระยะห่างสำหรับการต่อเติมระเบียงชั้นบน
การต่อเติมระเบียงชั้นบน หรือหลังคาที่สามารถขึ้นไปใช้งานด้านบนได้ จะต้องเว้นระยะจากระเบียง จนถึงแนวเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 2.00 เมตร เท่ากับกรณีต่อเติมผนังที่มีช่องเปิด
ถ้าหากก่อสร้าง ดัดแปลง ต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น มีบทลงโทษตามกฎหมายมาตรา 65 คือ จำคุก 3 เดือน ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และโทษปรับเป็นรายวัน ไม่เกินวันละ 10,000
มาตรา 40 ถูกสั่งให้หยุดการก่อสร้าง หรือสั่งห้ามใช้ หรือห้ามเข้า หรือสั่งให้ไปปฏิบัติตามกฎหมาย หรือในกรณีแย่ที่สุดอาจต้องรื้อถอนทั้งหมด (ตามมาตรา 42)
เรื่องนี้จันหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเคลียร์กันได้ลงตัวนะคะ
คลิปแนะนำอีจัน
มอบนิ้ว พิสูจน์รักแท้!