ยึดทรัพย์ ตู้ห่าว 3 พันล้าน!!!

รมว.ยุติธรรม เเถลงยึดทรัพย์ ตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทา อายัดโรงเเรม พร้อมที่ดิน 39 ไร่ รวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท

กระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำหมายอายัดทรัพย์สินโฉนดที่ดิน พร้อมด้วยโรงแรมย่านสมุทรปราการ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาทเครือข่ายของนายตู้ห่าว

วันนี้ (9 ธ.ค.65) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงยึดทรัพย์ตู้ห่าว โดยเปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้ ชุดพาลีปราบยาเสพติด ออกปฏิบัติการอายัดทรัพย์สิน หลังได้รับข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาส่งมอบให้กับกระทรวงยุติธรรม ต่อมา ผู้อำนวยการศูนย์ยาเสพติด ป.ป.ส. เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ออกอายัดทรัพย์สินของบริษัท โรงแรมดิวาลักซ์ รีสอร์ทแอนด์สปา จ.สมุทรปราการ พร้อมโฉนดที่ดินจำนวน 5 แปลง รวมกว่า 39 ไร่ ​รวมทรัพย์สินมูลค่าทั้งหมดที่อายัดไว้ ประมาณ 3,000 ล้านบาท

จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า บริษัทนี้ก่อตั้งปี 2555 มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท  มีกรรมการ 3 คนคือ นางพัชรินทร์ ,นางรัตนา และนายตู้ห่าว ร่วมเป็นกรรมการบริษัท ต่อมาในปี 2559-2561 บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างโรงแรมดิวาลักซ์ฯ

ที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ป.ป.ส. ยังได้ขยายผลอายัดทรัพย์สินเครือข่ายของนายตู้ห่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว รวมกว่า 1,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์และรถยนต์หลายรายการ ซึ่งยังมีเอกสารรายละเอียดบางส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบไม่แล้วเสร็จ

ส่วนยอดการอายัดทรัพย์สินของตำรวจที่ระบุว่า ทรัพย์สินของนายตู้ห่าวมีประมาณ 5,000 ล้านบาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า ยังไม่ได้รับข้อมูลแต่มีการประสานกันโดยตลอด ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า การอายัดทรัพย์สินทั้งหมดนี้ เจ้าของทรัพย์สินสามารถนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงที่มาของทรัพย์ได้ โดยระหว่างการอายัด เจ้าของทรัพย์ ยังสามารถเปิดให้บริการได้จนกว่ากระบวนการอายัดทรัพย์จะแล้วเสร็จ โดยเป็นไปตามคำสั่งของศาล

ซึ่งนายตู้ห่าว ถูกดำเนินคดีฐานสมคบยาเสพติด ถือเป็นองค์ประกอบการฟอกเงิน แต่หาก ตู้ห่าว สู้คดีอาญาชนะ ในส่วนของการอายัดทรัพย์สิน นายตู้ห่าว ยังจำเป็นต้องชี้แจงที่มาของทรัพย์ให้ได้ ซึ่งทรัพย์สินของนายตู้ห่าว ยังมีอีกมาก เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่ออายัดทรัพย์ต่อไป

ส่วนประเด็นกรณีตำรวจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหามูลฐานความผิดการฟอกเงินกับนายตู้ห่าว นายสมศักดิ์ เผยว่า การอายัดทรัพย์ขนาดนี้ใช้อำนาจกฎหมายของ ป.ป.ส. ซึ่งถือว่า ยาเสพติดเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดการฟอกเงิน ดังนั้นการแจ้งข้อกล่าวหา ฟอกเงินหรือไม่ เป็นอำนาจการสอบสวนคดีอาญาที่ตำรวจรับผิดชอบอยู่แล้ว

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเดินทางไปสำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เพื่อขอให้เร่งรัดทำคดีทุนจีนสีเทา ให้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรอาชญากรรมข้ามชาติ เพราะยาเสพติดมีการติดฉลาก ตราประทับเป็นภาษาจีนชัดเจน ซึ่งเป็นคดีนอกราชอาณาจักรได้ โดยอัยการสูงสุดจะต้องเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพราะตำรวจไม่มีความแม่นยำข้อกฎหมายเท่าอัยการ รวมทั้งจะร้องดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หากคดีไม่มีความคืบหน้า

ส่วนการไม่แจ้งข้อหาฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานคดียาเสพติดกับนายตู้ห่าว ต้องไปสอบถาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพราะเป็นส่วนสำคัญในการติดตามยึดอายัดทรัพย์เครือข่าย ถ้านายตู้ห่าวไม่ถูกตั้งข้อหาฟอกเงิน และ นางพัชรินทร์ ที่เป็นนอมินี มีเส้นทางการโอนเงินชัดเจนแต่ถูกกันไว้เป็นพยาน เลยไม่สามารถดำเนินคดีร่วมกันสมคบฟอกเงินไปด้วย

“ผมเริ่มไม่ค่อยมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เเละเชื่อว่าตั้งใจไม่แจ้งข้อหาฟอกเงินกับนายตู้ห่าว เมื่อถึงชั้นศาลอาจทำให้หลุดคดีและในชั้นฎีกาอาจมีการยกฟ้องจนทำให้นายตู้ห่าวกลับมาไล่ฟ้องกลับได้ นอกจากนี้ ฝากถึงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เร่งปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ถ้ากวาดล้างได้สำเร็จถือเป็นผลงานรัฐบาล”

นายชูวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ส่วนนายจ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษ ผู้ก่อตั้งอาณาจักรคาสิโนคิงส์โรมัน เชิญตนมาเที่ยวสามเหลี่ยมทองคำนั้น ตนขอให้นายจ้าว เหว่ย เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยก่อน มาดูธุรกิจจีนเทา จากนั้นตนจะไปตามคำเชื้อเชิญ” ชูวิทย์กล่าว

คลิปอีจันแนะนำ
นาที “ตู้ห่าว” มอบตัว ปัดไม่ยุ่งยาเสพติด