ครอบครัวหัวร้อน ด่าตำรวจ-ท้าต่อย หลัง สายตรวจ เตือน เปิดเพลงเสียงดัง

โผล่อีก ครอบครัวหัวร้อน ด่าตำรวจ-ท้าต่อย อ้าง นามสกุลดัง หลัง สายตรวจ เข้าไปเตือน เพราะเปิดเพลงเสียงดัง

ชาวเน็ตแฉคลิป #ครอบครัวหัวร้อน ด่าตำรวจ-ท้าต่อย หลังตำรวจเข้าไปเตือน เพราะเปิดเพลงเสียงดัง

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้าไปแจ้งเจ้าของบ้านหลังหนึ่ง ให้ช่วยลดเสียงเพลง เนื่องจากมีการแจ้งเหตุจากประชาชนเข้ามา แต่ทันที่ที่สายตรวจนายนี้ พยายามพูดคุยกับทางเจ้าของบ้านหลังนี้ กลับพบว่าครอบครัวดังกล่าว เดินปรี่เข้าหาเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทั้งด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆนานา โดยอ้างสิทธ์ในเขตบ้านของตนเอง พร้อมทั้งอ้างว่า ตนเองรู้จักกับตำรวจยศพันตำรวจเอก แถมยังท้าสายตรวจ ให้ถอดเสื้อมาดวลกับชายเจ้าของบ้านอีกด้วย ปิดท้ายด้วยการพูดอ้างถึงนามสกุลตัวเอง ที่ดันไปคล้ายกับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับอธิบดีคนหนึ่งด้วย

หลังจากนั้นก็มีคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ กลายเป็นกระแสร้อนขึ้นมาทันที ชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมสุดกร่างของครอบครัวนี้ พร้อมกับตั้งคำถามว่า รู้จักนายตำรวจเหมือนที่อ้างไว้จริงหรือไม่

ทีมข่าวอีจันได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.ไมตรี บูรณทอง รองผกก.ป. สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 12 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางตำรวจได้รับแจ้งเหตุ วงสุราเปิดเพลงเสียงดัง ในร้านอาการแห่งหนึ่ง ริมถนนสุขุมวิทขาออก ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ จึงส่งสายตรวจ คือ ส.ต.ต.สุรวีร์ วีระชาติ ผบ.หมู่ (ป.)สภ.เมืองสมุทรปราการ ไประงับเหตุ พอสายตรวจไปถึงก็พบวงสุราเปิดเพลงเสียงดัง จึงแสดงตัวและขอให้ลดเสียงเพลงลง ทำให้คนในร้านรวม 6 คนไม่พอใจ จนปรากฏเหตุการณ์ด่าทอตามคลิปดังกล่าว ทำให้สายตรวจต้องล่าถอยและรีบรายงานกลับมายังผู้บังคับบัญชา

จากนั้นผู้บังคับบัญชาจึงให้สายตรวจนำหลักฐานจากกล้องติดหน้าอกไปแจ้งความร้องทุกข์ และลงบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน เพื่อออกหมายเรียกกลุ่มบุคคลดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา โดยเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา

1.ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่

2.ร่วมกันเปิดเพลงส่งเสียงดังอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อนจากการเปิดเพลงเสียงดังในที่สาธารณะ

3.ร่วมกันกระทำการใดต่อผู้อื่นอันเป็นการข่มเหงคุกคามหรือเดือดร้อนรำคาญ

4.ร่วมกันดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่

5.ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่

6.ร่วมกันทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่นไม่ถึงกับอันตรายร่างกาย

ขณะนี้ตำรวจทราบตัวกลุ่มคนดังกล่าวแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา

ด้าน ส.ต.ต.สุรวีร์ วีระชาติ เจ้าหน้าที่สายตรวจที่เข้าไประงับเหตุ เปิดใจว่า วันเกิดเหตุกลุ่มคนดังกล่าว แสดงท่าทีไม่พอใจและด่าทอโวยวาย อ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโตในพื้นที่ ระดับพันเอก-พันโท ยังไม่กล้ายุ่งกับกลุ่มคนดังกล่าว จนได้รับคำแนะนำจากผู้บังคับบัญชาให้แจ้งความดำเนินคดี ถามว่ารู้สึกยังไงกับเหตุการณ์ดังกล่าว ยอมรับว่ามีน้อยใจบ้าง ที่ตำรวจไทยต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ด้วยการได้รับการฝึกให้เป็นตำรวจที่ดี คือต้องอดทนต่อความเจ็บใจ ซึ่งตนเองก็ยึดคำนี้ไว้ตลอด ตนเองไม่ท้อ และได้แรงบันดาลใจจากผู้กำกับท่านหนึ่ง ที่ระบุว่า ตำรวจงานป้องกันเป็นตำรวจที่ช่วยเหลือประชาชนได้ดีที่สุด และด้วยความที่ตนเองอยากช่วยเหลือประชาชนจึงตั้งใจเป็นตำรวจที่ดี

ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านสเต็กดังกล่าว เพื่อไปพูดคุยกับทางครอบครัวที่ปรากฎตามคลิป จุดดังกล่าวเป็นร้านอาหาร มีการติดตั้งตู้ลำโพงขนาดใหญ่ไว้หน้าบ้าน นางอรพรรณ อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ บอกกับนักข่าวว่า วันเกิดเหตุ ขณะที่ตนเองและครอบครัวรวมประมาณ 20 คน กำลังดื่มฉลองกันอยู่ที่หน้าบ้าน ก็พบว่ามีตำรวจสายตรวจ มาเพียงนายเดียว มาแจ้งว่าให้ลดเสียงเพลงลง ตนเองก็บอกกลับไปว่าจะลดลงให้ ให้สายตรวจกลับไปเถอะ แต่สายตรวจคนดังกล่าวไม่ยอมกลับ และยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปในบ้าน ตนเองจึงมองว่ามีสิทธิ์อะไรที่มาถ่ายรูป ให้กลับไปก็ไม่กลับ จนสามีออกมาพร้อมกับลูกๆ จนเกิดการปะทะกันในคลิป คืนนั้นถ้าสายตรวจออกไปตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ครอบครัวตนเองไม่ใช่คนดื้อรั้น หรือครอบครัวที่มีอิทธิพลหรือนามสกุลดังอะไรเลย แต่มองว่าคุณมาตามใบสั่งใครหรือไม่ ตอนนี้ตนเองและครอบครัวมองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะการนำคลิปไปลงจนได้รับความเสียหาย ซึ่งจะเข้าพบผู้การจังหวัดเพื่อขอความเป็นธรรมด้วยเช่นกัน

ขณะที่ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายเรียกของพนักงานสอบสวนไปยื่นให้กับทางครอบครัวนี้เพื่อไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งทั้งหมดรับทราบและยอมรับหมายเรียกโดยจะเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค. 66)

คลิปอีจันแนะนำ
โผล่อีก ? ครอบครัวหัวร้อน V.2