กรมการค้าภายใน ชวนคนไทย อุดหนุนผ้าไทย By หมู่บ้านทำมาค้าขาย

เผยแพร่เมื่อ : 19 ก.ย. 2565, 20:35

19 ก.ย. 65 ที่เซ็นทรัลเวิร์ล ลานเอเทรียม ชั้น 3 กรมการค้าภายใน โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดกิจกรรม “เสพศิลป์ เอกลักษณ์ อัตลักษณ์เมืองใต้ By หมู่บ้านทำมาค้าขาย” พร้อมจับคู่ธุรกิจวิสาหกิจชุมชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยมี นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดงาน

นายวัฒนศักดิ์ เผยว่า กรมการค้าภายใน ได้มุ่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ ผู้จำหน่ายสินค้าจาก หมู่บ้านทำมาค้าขาย ตลาดต้องชม วิสาหกิจชุมชน ที่อยู่ในความส่งเสริมของ กรมการค้าภายใน โดยเชื่อมโยงการค้า ส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า สร้างรายได้กลับสู่ชุมขน รวมถึงสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น

โดยในปี 2565 กรมการค้าภายใน ได้ส่งเสริมหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ จำนวน 5 แห่ง ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งหมด 37 แห่ง สำหรับตลาดต้องชมส่งเสริมแห่งใหม่ 11 แห่ง ปัจจุบันมีทั้งหมด 239 แห่ง

ดังนั้น เพื่อเชื่อมโยงตลาด เพิ่มโอกาสทางการค้า จึงได้จัดงาน “เสพศิลป์ เอกลักษณ์ อัตลักษณ์เมืองใต้ By หมู่บ้านทำมาค้าขาย” ด้วยการจัดหาพื้นที่สำหรับแสดง และขายผลิตภัณฑ์ในพื้นที่ทำเลทองใจกลางเมือง เพื่อเพิ่มช่องทางในการระบายสินค้าจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบกรค้าในท้องถิ่น อาทิ หมู่บ้านทำมาค้าขาย ตลาดต้องชม วิสาหกิจชุมชนในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน และสร้างโอกาสทางการค้า พร้อมเชื่อมโยงช่องทางตลาดให้เกิดการซื้อขายกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ตลอดจนการเพิ่มช่องทางสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสร้างการรับรู้ถึงเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ผลิตภัณฑ์จากชุมชน โดยถ่ายทอดเรื่องราวให้เกิดการจดจำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อีกทั้งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ และดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว.

สำหรับกิจกรรมภายในงาน กรมการค้าภายใน ได้คัดเลือกสินค้า และผลิตภัณฑ์เด่นที่มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะชุมชน จากกลุ่มหมู่บ้านทำมาค้าขาย ได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านตรอกแค, วิสาหกิจชุมชนหัตถศิลป์พื้นบ้านปากบารา และวิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมกระจูดวรรณี

กลุ่มตลาดต้องชม ได้แก่ สีภูบาติก เขาชัยสน และ ห้างหุ้นส่วนสามัญหลาดใต้โหนด (ตลาดใต้โหนด จ.พัทลุง) และจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนน้องใหม่ ได้แก่ ศิวะนาฎ กนกไทย, คนังมัดย้อม และผ้าทอลานข่อย ซึ่งสนใจเข้าร่วมเป็นหมู่บ้านทำมาค้าขาย มาจัดแสดงและจำหน่าย รวมทั้งจะได้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ระหว่างวิสาหกิจชุมชนกับธุรกิจที่มีชื่อเสียง เช่น บิวตี้เจมส์ ชมรมเพลินไทยสมัยนิยม ห้องเสื้อทิวากร CP RAM และร้านไข่หวานบ้านซูชิ โดยตั้งเป้าหมายมูลค่าการเจรจาธุรกิจ ประมาณ 2.5 ล้านบาท