คดีพลิก! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ได้หลอก แต่ลูกเอาไป เติมเกม

จากกรณี เมื่อ วันที่ 30 ก.ค. 65 นายณรงค์ฤทธิ์ คงทอง 49 ปี ชาวบ้าน ต.แม่เจ้าอยู่ อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าปุ๋ยหอบหลักฐานร้องขอความช่วยเหลือจาก สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังลูกอายุ 10 ขวบ ถูกเก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินจากบัญชีของตนไปให้รวม 65 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 7-25 ก.ค.2565 รวมเป็นเงิน 1.206,000 บาท เบื้องต้นแจ้งความไว้ที่ สภ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

โดยคนเป็นพ่อเชื่อว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสตอนที่ลูกใช้โทรศัพท์ไปเรียนออนไลน์และเล่นเกมส์ออนไลน์หลอกให้ลูกตนถ่ายบัตรประชาชนของตน และข้อมูลส่วนตัว ส่งไปให้ ก่อนจะให้โอนเงินต่อเนื่อง

ลูก 10 ขวบ ใช้มือถือเรียนออนไลน์ ถูกหลอกโอนเงินสูญ 1.2 ล้าน

ล่าสุด คดีพลิก! ไม่ได้โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก แต่ ลูกเอาเงินไปเติมเกม

เมื่อวานนี้ (01 ส.ค. 65) พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 เผยว่า พนักงานสอบสวน บก.สอท.5 ได้เชิญผู้เสียหายและบุตรชายวัย 10 ขวบ มาเพื่อสอบถามรายละเอียด และตรวจสอบการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง พบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้นำโทรศัพท์มือถือไปให้บุตรชายใช้เรียนออนไลน์ ซึ่งในการใช้งานแต่ละครั้ง ผู้เสียหายไม่ได้ตรวจสอบการใช้งานของลูกชายอย่างใกล้ชิด ทำให้ลูกชายนำโทรศัพท์ไปใช้สมัครเล่น เกมออนไลน์ และซื้อ ไอเทมเกม

โดยค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อแต่ละครั้ง ทำผ่านธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet)

พล.ต.ต.ชรินทร์ เผยอีกว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า เป็นการทำธุรกรรมโดยเจ้าของบัญชีเอง ซึ่งบุตรชายอาจเป็นผู้ดำเนินการเองโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการชำระค่าสินค้าเกี่ยวกับเกมออนไลน์ที่ตรวจพบ แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ

1.เป็นการทำธุรกรรมทางด้านการเติมเงินเพื่อใช้ซื้อ ไอเทมเกม

2.เป็นการทำธุรกรรมทางด้านการสนับสนุนผู้ทำคอนเทนต์ ผ่านช่องยูทูบ

โดยการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง เป็นการกระทำผ่านแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่พ่อมอบให้บุตรชายไว้ใช้งาน นอกจากนี้พบว่าโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวมีการใช้งานกับกระเป๋า E-wallet และแอปพลิเคชัน Mobile banking ซึ่งผูกบัญชีไว้ด้วยกัน

เบื้องต้น ตำรวจได้ตรวจสอบและอธิบายรายละเอียดที่เกิดขึ้นให้ผู้เสียหายรับทราบ ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบุตรชาย ในการใช้บริการอินเทอร์เน็ตและทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน ควรให้ความใส่ใจและควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของบุตรหลาน เพื่อให้เป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ นายฐานันดร์ พ่อค้าขายบัตรเติมเงินเกมส์ออนไลน์ บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพิ่งจะมี มีบ่อยมาก เนื่องจากเด็กเป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงินเอง และผู้ปกครองไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งตนในฐานะพ่อค้าคนกลางก็จะเติมเงินให้กับสมาชิกที่ผูกบัญชีธนาคารเอาไว้แล้ว อยากแนะผู้ปกครองรายนี้ ต้องเช็คให้ได้ว่า บุตรเอาไปซื้อเกมอะไร กับใคร ก็ติดต่อขอขายเกมทิ้งไปเลย อาจจะได้เงินกลับคืนมาไม่มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เลย