เปิดสำนวน เเจ้งข้อหาเพิ่ม “ชัยวัฒน์” คดีบิลลี่

เปิดสำนวน เเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม “ชัยวัฒน์” ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น คดีบิลลี่ ด้านเจ้าตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เปิดสำนวน เเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”

ร่วมกันมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่น ในคดีบิลลี่

วันนี้ (31 ส.ค.65) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมทนายเดินทางไปที่ กรบสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ชัยวัฒน์ รับทราบข้อหาเพิ่ม ลั่นเรื่องจะได้จบ!

เปิดสำนวน การเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

โดยในสำนวนระบุว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้ต้องหา อายุ 58 ปี ชาว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ดังนี้


คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาบันทึกคำให้การ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.62 จำนวน 6 แผ่น โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องท่านตามความผิด ดังนี้

ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ,ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต , ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นแก่ตนเองหรือผู้อื่น, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 มีคำสั่งฟ้องในความผิด ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตและร่วมกันเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนความผิดฐานอื่นนอกจากนี้มีคำสั่งไม่ฟ้อง

โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ ซึ่งบัดนี้ อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตนหรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้, ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือ ต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันโดยทุจริตหรือเพื่ออำพรางคดีกระทำการใดใดแก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น

ชี้ขาดไม่ฟ้องในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ร่งมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันใช้อำนาจในตำเเหน่งโดยมิชอบข่มขืนใจเพื่อให้บุคคลมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเเก่ตนเองเเละผู้อื่น , ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญหรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดติดตัวไปด้วยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย


เเละพนักงานอัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษสอบสวนเพิ่มเติม โดยให้เเจ้งข้อกล่าวหาเเก่ นายชัยวัฒน์ เพิ่มเติมในความผิดฐาน ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผุ้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง

เหตุเกิดที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานเเห่งชาติเเก่งกระจานที่ 6 (เขามะเร็ว) หมู่ที่ 3 ต.ห้วยเเม่เพรียง อ.เเก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เเละบริเวณ สะพานเเขวน เขื่อนเเก่งกระจาน ต.สองพี่น้อง อ.เเก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เกี่ยวพันกัน ระหว่างวันที่ 17 เม.ย.2557 เวลาประมาณ 15.30 น. ถึงวันที่ 18 เม.ย.2557 เวลาประมาณ 21.00 น.เวลาใดไม่ปรากฏชัด ต่อเนื่องกัน


ผู้ต้องหาทราบและเข้าใจข้อเท็จจริงและข้อกล่าวหาตามที่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แจ้งให้ทราบข้างต้นดีโดยตลอดแล้ว และขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยได้ให้การต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษปรากฎตามบันทึกคำให้การผู้ต้องหาที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ทำการสอบสวนไปในคราวเดียวกันต่อจากการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนี้

การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่โดยมิได้ทำหรือจะทำการใดๆ ซึ่งเป็นการให้คำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับ หรือ กระทำโดยมิชอบประการใดๆ เพื่อจูงใจให้ผู้ต้องหาให้การอย่างใดในเรื่องที่ต้องหานั้น

คลิปแนะนำอีจัน
คัดค้านประกันตัว เอ็ม อภิดิศร์ ข่มขืนดาราสาว