นพ.ธีระ เผยซีซั่นโอมิครอน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อยกครอบครัว ยกออฟฟิศ

นพ.ธีระ เผย ซีซั่นโอมิครอน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อทั้งครอบครัว ทั้งออฟฟิศ ย้ำ! การใส่หน้ากากอนามัยยังสำคัญ ป้องกันได้

วันนี้ (27 ก.ค.65) นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน) เกี่ยวกับการแพร่ระบาดและการติดเชื้อโควิด 19 ในระลอกนี้ ว่า ผู้ป่วยที่มาพบหมอส่วนใหญ่ซึ่งติดเชื้อซีซั่นโอมิครอน (Omicron) นี้ ติดเชื้อแบบยกครอบครัว ติดจากลูกหลานที่ไปโรงเรียน สามีติดภรรยา โดยบางส่วนบอกว่าที่ทำงานติดกันยกออฟฟิศ

นพ.ธีระ ระบุว่า ประสบการณ์ตรง เมื่อวานนี้ 30% ของคนไข้ที่นัดมาตรวจแจ้งว่า เพิ่งติดเชื้อไป ซีซั่น Omicron นี้ไม่รอด กว่าสามในสี่ของคนที่ติดเชื้อเป็นการติดยกครอบครัว ส่วนใหญ่ติดจากลูกหลานที่ติดจากโรงเรียน หรือไม่ก็สามีหรือภรรยาติดจากที่ทำงาน โดยบางส่วนบอกว่าที่ทำงานติดกันยกออฟฟิศ

ทั้งนี้ สังเกตพบว่าราวหนึ่งในสี่ใส่หน้ากากไม่ถูกต้อง มักหลวม และหลุดลงมาจากจมูก เลยแนะนำไปว่าให้เลือกหน้ากากที่เหมาะกับโครงหน้าของตัวเอง กดแผ่นโลหะที่ขอบบนให้แนบกับจมูก หากยังมีร่องข้างจมูกและข้างแก้ม ควรใส่หน้ากากผ้าทับไว้ด้านนอกเพื่อกดให้หน้ากากอนามัยด้านในแนบใบหน้ามากขึ้น

ขณะที่ล่าสุดบทความวิชาการโดย Chou R และคณะจากประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ในวารสารวิชาการแพทย์สากล Annals of Internal Medicine วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้ทำการทบทวนงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการใส่หน้ากากทั้งในสถานพยาบาล และในชุมชน ยืนยันชัดเจนว่า การใส่หน้ากากอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อแพร่เชื้อไปได้มาก ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากแบบ N95/KN95 หรือเทียบเท่าก็ตาม ล้วนลดความเสี่ยงไปได้กว่าครึ่ง

สำหรับสถานการณ์ของไทยมีการระบาดรุนแรงต่อเนื่อง ติดเชื้อมากขึ้นกว่าระลอกก่อนๆ มีการป่วยรุนแรงมากขึ้น และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น BA.5 นั้นรุนแรง ทำให้ป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลมากกว่า BA.2 ถึง 2 เท่า (งานวิจัยในโปรตุเกส 2-3 เท่า, งานวิจัยในเดนมาร์ก 1.65 เท่า) ดังนั้นการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอ เป็นหัวใจสำคัญในการอยู่รอดในวิกฤตินี้

คลิปแนะนำอีจัน
คลั่ง! บุกบ้านตำรวจ โดนสวนดับ