แพทย์ไนจีเรีย ต้นเหตุ ฝีดาษลิง ระบาด : ศูนย์จีโนมทางการแพทย์

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ เปิดข้อมูลการศึกษา ฝีดาษลิง ของ แพทย์ไนจีเรีย เผย หาก 5 ปีก่อนแก้ไขตรงจุด ตอนนี้คงไม่มีการระบาดขึ้น

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ ได้ออกมาเผยข้อมูลเรื่อง ฝีดาษลิง ซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในไทยแล้ว

โดย น.พ.ดิมี โอโกอินา ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากมหาวิทยาลัยไนเจอร์เดลต้า ประเทศไนจีเรีย ได้พบกับผู้ป่วยคนสำคัญ ที่มีความเชื่อมโยงกับการระบาดของโรคฝีดาษลิงที่ใหญ่ ที่กำลังเกิดขึ้น

น.พ.ดิมี โอโกอินา เผยว่าเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในวันที่ 22 กันยายน 2017 เด็กชายวัย 11 ขวบ มาที่คลินิกของเขา โดยมีผื่นแปลกๆ บนผิวหนังและแผลในปาก ตุ่มแผลมีขนาดใหญ่มากที่ใบหน้าและทั่วร่างกาย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่ามีการติดเชื้อไวรัส ฝีดาษลิง

นับเป็นเคสแรกในรอบ 38 ปี ของไนจีเรีย

จากการสอบสวนโรคเด็กชายคนดังกล่าวไม่ได้ติดเชื้อไวรัสจากสัตว์ แต่ติดจากญาติ (ผู้ชาย) ในบ้านของเขาเอง

ถัดมาอีก 2-3 เดือน น.พ. ดิมี โอโกอินา และทีมพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 20 ราย ล้วนเป็นชายหนุ่ม อายุ 20-30 ปี

จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม ของเด็กชาย รายดังกล่าว พบเป็น ฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ “hMPVX-1A” แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกา ระหว่างคนสู่คน ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิง จากนั้นได้แพร่ระบาดมายังยุโรป อังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลียในชุมชนชายรักชายในปี 2022

โดยพบผู้ติดเชื้อเป็นผู้ชาย 99% เป็นชายรักชาย 98% เป็นผู้หญิงเพียง 1% ส่วน ผื่น ตุ่มหนอง จะเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนักเป็นส่วนใหญ่ มีการติดต่อคล้ายกามโรค และสามารถติดต่อจากการกอดจูบ สัมผัส เสียดสีโดยไม่มีการร่วมเพศก็เกิดขึ้นได้ผ่านรอยถลอก แผลสด หรือเยื่อบุต่างๆ

น.พ.ดิมี โอโกอินา และทีมวิจัยได้พยายามเตือนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักวิทยาศาสตร์ทั้งในประเทศและทั่วโลกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงภัยคุกคามของโรคไวรัสฝีดาษลิง ซึ่งรอยโรคมีการกลายพันธุ์และอาจแพร่กระจายผ่านการมีเพศสัมพันธ์

แต่ไม่มีผู้ใดหรือประเทศใดให้ความสนใจในขณะนั้น ทำให้ น.พ. ดิมี โอโกอินา รู้สึกว่า นั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งความผิดพลาด ที่จะยับยั้งการระบาดใหญ่ของฝีดาษลิงระหว่างคนสู่คนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน (2022)

ด้านผู้เชี่ยวชาญไนจีเรียประจำคณะกรรมการฉุกเฉินโรคฝีดาษลิงของ WHO กล่าวว่า มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะควบคุมการระบาด ด้วยการฉีดวัคซีน เฉพาะในยุโรปและอเมริกา

เพราะต้นตอของการระบาด จากสัตว์ ยังอยู่ในแอฟริกา จึงควรระดมฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิงในแอฟริการ่วมไปพร้อมกัน

เพราะเดิมที่ ฝีดาษลิง เป็นโรคประจำถิ่นในแอฟริกา แพร่จากสัตว์สู่คนประปรายและไม่ได้แพร่กระจายได้ง่ายระหว่างผู้คน โดยเฉพาะกับผู้ใหญ่

ในอดีตโรคฝีดาษลิงส่งผลกระทบต่อเด็กเป็นหลัก รองลงมาเป็นผู้หญิง และคนชรา

ซึ่งตั้งแต่ปี 2017 ไวรัสฝีดาษลิง มีการกลายพันธุ์เปลี่ยนไปถึง 40-50 ตำแหน่ง กลายเป็นสายพันธุ์ที่สามารถแพร่กระจายโดยการสัมผัสใกล้ชิดกับผิวหนังระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจโดยการติดต่อผ่านสารคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศ

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ส่งสัญญาณว่า ไวรัสฝีดาษลิง สามารถแพร่กระจายระหว่างคนสู่คนได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกระโดดจากสัตว์สู่คนอีกต่อไป

นั่นหมายความว่าการระบาดของเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในไนจีเรีย และทั่วโลกจะยุติ หรือสงบลงได้ยากมากขึ้น การฉีดวัคซีนจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการยับยั้ง และยุติการระบาด

ซึ่งอาจต้องดำเนินการฉีดวัคซีนต่อเนื่องไปอีกหลายปี โดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสฝีดาษ (smallpox) ในอดีต

ยิ่งหากมีการติดต่อจากผู้ติดเชื้อมาสู่สัตว์จนเกิดเป็นรังโรคเกิดการระบาดกลับมาสู่คนประปรายกลายเป็นโรคประจำถิ่น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นขณะนี้ในแอฟริกา

อ่านข้อมูลอ้างอิงได้ที่

https://www.thelancet.com/…/PIIS1473-3099(22…/fulltext

https://www.npr.org/…/a-doctor-in-nigeria-tried-to-warn…

https://www.kait8.com/…/who-again-considers-declaring…/

ขอบคุณข้อมูลจาก: ศูนย์จีโนมทางการแพทย์

คลิปแนะนำอีจัน
215 วันทรมานในคุกว้าแดง ครูแดนนี่