นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี Energy Symphosium 2022 จัดโดยสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เรื่องวิกฤตพลังงานและแผนของประเทศ ว่า จากนี้ไปประชาชนคนไทยคงจะไม่ได้เห็นอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ต้องจ่ายในระดับต่ำกว่า 4 บาทต่อหน่วยอีกแล้ว
นายคมกฤช กล่าวต่อว่า เนื่องจากเชื้อเพลิงมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ที่เคยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติอ่าวไทยราคาต่ำในสัดส่วนที่สูง ได้ปรับลดลงจากปริมาณก๊าซที่จำกัด ส่งผลให้ไทยต้องนำเข้าจากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะรูปแบบก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่สูงขึ้น
“ต้องยอมรับว่าเมื่อเกิดสงครามรัสเซียและยูเครน ส่งผลให้การนำเข้าแอลเอ็นจีมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะในรูปแบบตลาดจร (Spot LNG) ทำให้ผู้ขายไม่ทำสัญญาระยะยาว เพราะขายตลาดจรได้ราคาสูงกว่า ซึ่งราคาแอลเอ็นจีคิดเป็นต้นทุนการผลิตไฟประมาณ 10 บาทต่อหน่วย ขณะที่ก๊าซในอ่าวไทยอยู่ที่เพียง 2-3 บาทต่อหน่วย และน้ำมัน 6 บาทต่อหน่วย”นายคมกฤช กล่าว
ปัจจุบันค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่า ค่า FT เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2565 ได้ปรับขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟที่เรียกเก็บจากประชาชนเฉลี่ยต้องจ่ายอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย โดยยอมรับว่าหากดูจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่ยังคงมีทิศทางผันผวน แนวโน้มยังคงต้องปรับตัวสูงขึ้น แต่จะมากน้อยเพียงใดอยู่ที่ปริมาณก๊าซในอ่าวไทย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้แบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงแทนประชาชนแล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท