กู้ภัยระยอง ช่วย หญิงชรา นอนริมถนน อ้าง เครียด ลูกสาวทะเลาะกับแฟน

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 65 หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ ว่าพบ หญิงชรา นอนอยู่ริมถนน หวั่นจะถูกรถชน บริเวณ ปากทางเข้าวัดช่องสลอด ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบหญิงชราผมขาวโพลน ใส่เสื้อคอกระเช้าสีม่วงผ้าถุงลายดอกสีส้ม นอนอยู่ริมถนน โดยไม่สนใจต่อรถราที่วิ่งผ่านไปมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่ายายมีอาการเกรี้ยวกราด และ พูดจาวกวน คล้ายคนเมา พยายามพูดจาเกลี้ยกล่อม ให้กลับบ้าน แต่ไม่เป็นผล ส่งเสียงตะโกนด่าลั่นถนน ก่อนที่ น.ส.บัวลอย ซึ่งเป็นลูกสาว ได้เดินทางมา พยายามบอกให้แม่ไปกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย จะได้พาไปรักษาที่ รพ.ระยอง แต่ก็ไม่เป็นผล จึงมี น.ส.นายิกา ศิรารัตน์ อายุ 55 ปี (จิตอาสาเจ้าของคลิป) มาช่วยคุยให้ยายเย็นลง เจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงช่วยกันพาตัวไปส่งไปรักษาที่ รพ.ระยอง ได้

น.ส.บัวลอย ได้เปิดเผยต่ออีกว่า ที่ผ่านแม่ป่วยเป็นจิตเภท และหันมาดื่มสุรา อาการก็กำเริบหนักขึ้น มักจะมีอาการเครียดบ่อยครั้ง และ มักจะมีอาการเกรี้ยวกราด ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ จะคว้ามีด คว้าไม้ทำร้าย สร้างความหวาดกลัวให้กับเด็ก ตนเองก็หวาดระแวงไม่รู่เมื่อไหร่จะถูกทำร้าย แม่ยังเคยเอามีดมาตัดนิ้วตัวเองจนขาด ปัจจุบันนิ้วชี้มือซ้ายก็ขาดไป 2 ข้อ ตนจึงต้องระวังตัวอยู่ตลอด อยากจะพาไปรักษาแต่ก็ไม่มีเงิน  วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพาแม่ไปรักษาโรคจิตเภท เพื่อจะได้หายจากอาการที่เป็นอยู่ จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค 65 นางสาวเรวดี จันทเปรมจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดระยอง สั่งการนายอชิตพล อินทร์ไชย นักสังคมสงเคราะห์ พร้อมทีมงาน เดินทางไปที่บ้านของยายวัย 80 ปี ที่ ม.4 ต.ชากบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เร่งให้ความช่วยเหลือ นางค่าย สุวรรณมงคล อายุ 80 ปี ซึ่งอาศัยอยู่กับ ลูกสาว ลูกชาย และ เหลน

เมื่อเดินทางไปถึงพบกับ น.ส บัวลอย บอกว่า นางค่ายได้หายตัวออกไปไหนไม่รู้ ตนออกไปทำงานตั้งแต่เช้า กลับมา 14:00 น. ก็ไม่เจอแม่แล้ว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามนายแหลม (ลูกชายนางค่าย) บอกว่าตนมีอาชีพกรีดยาง จะกลับมาช่วงเช้าตลอด วันนี้เช้า 8:00 น. กลับมาก็ไม่เจอแม่แล้ว ตนก็ออกไปตามหา จนถึง 9:00 น. ก็ไม่เจอ

ต่อมาเวลา 16:30 น. มีชาวบ้านแจ้งว่า พบนางค่ายเดินอยู่แถวบริเวณที่พบ เมื่อวาน คือวัดเขาช่องสลอด ทางเจ้าหน้าที่ พม. จึงรีบเดินทางไปตามหา ระหว่างทางจึงสอบถามชาวบ้านไปเรื่อย จนได้ความว่า มีคนแจ้งตำรวจ ตอนนี้ได้นำตัวยายไปส่งที่ สภ.สำนักทอง เรียบร้อยแล้ว

เมื่อไปถึง สภ.สำนักทอง พบกับนางค่าย ซึ่งยังใส่เสื้อของโรงพยาบาลระยอง ทางเจ้าหน้าที่ พม. จึงเข้าสอบถาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งนางค่าย ก็พูดจาปกติ ตามที่ผลแพทย์ ยืนยันว่านางค่ายไม่ได้มีอาการทางจิต ตรวจพบแค่แอลกอฮอล์ในเลือดเท่านั้น และสอบถามจนได้ความว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ได้ทะเลาะกับลูกสาวจริงเพราะลูกสาวทะเลาะกับแฟน ตนไม่ชอบที่เป็นแบบนี้ จึงหนีออกมา ไม่อยากอยู่บ้านเดียวกับลูกสาว ยังไงก็ไม่อยากกลับไปที่บ้าน ยอมรับว่า กินเบียร์วันละ 2 กระป๋อง เช้า-เย็น เพราะเครียด เวลาเห็นลูกสาวกับแฟนทะเลาะกัน เวลาตนไปห้ามกลับโดนลูกสาวต่อว่า ก็เกิดน้อยใจ ยืนยันจะไม่กลับไป

นายอชิตพล อินทร์ไชย นักสังคมสงเคราะห์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ของเคสนี้ ในตอนแรกก็ได้มีการคุยแก้ปัญหาคาใจระหว่างแม่และลูกสาว แต่ไม่เป็นผลเพราะฝ่ายแม่ หรือนางค่าย ยืนยันว่าจะไม่กลับบ้านไปอยู่บ้านเดียวกับลูกสาว ถ้าต้องกลับไปอยู่ ก็อาจจะเกิดเหตุการแบบเดิมซ้ำๆอีก ซึ่งก็เป็นมาเป็นปีแล้ว จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังหากไม่ช่วยกันแก้ไข ซึ่งอาจจะต้องแก้โดยการให้ลูกสาว ย้ายออกมาจากบ้าน ให้เช่าบ้านอยู่อีกหลัง โดยให้นางค่าย อยู่กับลูกชายและเหลน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้ลูกชาย 3,000 บาทเป็นค่าเช่าบ้าน 2 เดือน และ อีก 3,000 บาทให้กับลูกสาวไปเช่าบ้านอยู่ข้างนอกเพื่อให้นางค่ายยอมอยู่บ้าน ไม่ออกไปเดินหรือนอนกลางถนนอีก พร้อมสนับสนุนหาอาชีพเสริมให้ลูกชาย เพื่อเลี้ยงดูแม่ หรือนางค่าย อีกด้วย

ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานี้ จะใช้เวลาทดลองเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อดูว่า นางค่าย จะยอมปฎิบัติตามที่ได้ให้สัญญาไว้กับเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากหลังจาก 2 เดือน ไม่เป็นผล ก็จะใช้แนวทาง พา นางค่าย เข้าสถานสงเคราะห์ เป็นแนวทางสุดท้าย

อีจันขอให้เคลียร์ปัญหากันได้ลงตัวนะครับ เป็นห่วงคุณยาย