สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ชี้เป้านักล่าดาว
ตอนนี้ถึงฤดูกาลทางช้างเผือก เผยโฉม ยามเช้า แล้ว
ช่วงตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ถือเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มต้นตามล่า “ใจกลางทางช้างเผือก” เนื่องจากตำแหน่งใจกลางทางช้างเผือกจะอยู่ขนานกับขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเช้ามืด เริ่มสังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 04:00 น. เป็นต้นไป ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น
ในช่วงแรก และหลังจากนั้น จะเห็น ทางช้างเผือกเร็วขึ้นเรื่อยๆ และจะจะปรากฏอยู่สูงจากขอบฟ้ามากขึ้น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงปลายเมษายน แนวใจกลางทางช้างเผือกจะเปลี่ยนทิศทางเป็นแนวพาดบริเวณกลางฟ้า ช่วงนี้จะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป สามารถชื่นชมความสวยงามและบันทึกภาพทางช้างเผือกได้ยาวนานขึ้น
วิธีมองหาทางช้างเผือก
ให้หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างกลุ่มดาวคนยิงธนูกับกลุ่มดาวแมงป่อง
ซึ่งสามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ทั่วประเทศ แต่แนะนำให้อยู่ในบริเวณมืดสนิทไร้แสงรบกวน
ซึ่งในแต่ละปี ช่วงเวลาที่สังเกตทางช้างเผือกได้ดีที่สุด คือช่วงปลายเดือนเมษายน ถึง ต้นเดือนตุลาคม
ใจกลางทางช้างเผือกจะอยู่ในตำแหน่งกลางท้องฟ้าเกือบตลอดทั้งคืน
แต่ช่วงเดือนนี้ ประเทศไทยตรงกับฤดูฝนพอดี มักจะเจออุปสรรคเรื่องเมฆและฝนตก
แต่ถ้าท้องฟ้าเปิด ไร้เมฆฝน อย่าลืมฉวยโอกาสที่จะให้ดวงตาได้สัมผัสช่วงเวลาสวยงามที่สุดของทางช้างเผือกนะ
เพราะตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นต้นไป ทางช้างเผือกจะขึ้นตั้งแต่หัวค่ำ แต่จะพาดไปทิศตะวันตกเฉียงใต้ แล้ว
ชี้พิกัดดูทางช้างเผือกให้สวยที่สุด
เนื่องจากใจกลางทางช้างเผือกอยู่ในบริเวณกลุ่มดาวทางซีกฟ้าใต้ ทางตอนใต้ของไทยจึงมองเห็นแนวใจกลางทางช้างเผือกอยู่สูงจากขอบฟ้ามากกว่าภูมิภาคอื่น ส่งผลให้ชาวใต้มีโอกาสสังเกตเห็นทางช้างเผือกได้ชัดเจนมาก
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ แนะนำการถ่ายภาพทางช้างเผือก
ควรหาสถานที่บริเวณทิศตะวันออกเฉียงไปทางใต้เล็กน้อย เป็นพื้นที่มืดสนิทไม่มีแสงรบกวน ตั้งกล้องโดยหันหน้ากล้องไปที่ใจกลางทางช้างเผือก เลือกใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อให้ได้องศาการรับภาพที่กว้าง ปรับระยะโฟกัสของเลนส์ที่ระยะอนันต์ ใช้รูรับแสงที่กว้างที่สุด และตั้งค่าความไวแสงสูงตั้งแต่ 1600 ขึ้นไป
นอกจากนี้ ปี 2565 ยังมีดาวเคราะห์สว่างให้ชมอีก 2 ดวงในช่วงเช้ามืด คือ ดาวศุกร์ และดาวอังคาร สังเกตได้บริเวณด้านซ้ายล่างของใจกลางทางช้างเผือก