คำถามคาใจ จากผู้เข้ารับบริการจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งถึงสิทธิในการดูแล

เพราะเราถูกดูแลด้วยสิทธิการรักษา หรือเพราะระบบของทางโรงพยาบาล ทุกอย่างเลยนานไปหมด… 

หนึ่งกระบอกเสียงที่ได้รับผลกระทบ หลักเข้ารักษาอาการป่วยตามสิทธิ อีจันได้คุยกับคุณเค้ก ผู้ป่วยที่เข้ารักษาอาการป่วย ด้วยสิทธ์ประกันสังคมคุณเค้กเล่าว่า “เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีอาการไข้หนาวสั่นจึงลางานเพื่อไปรักษา ตัวคุณเค้กมีสิทธิประกันสังคมอยู่ โรงพยาบาลเอกชนย่านประชาชื่น วันนั้นไปโรงพยาบาลตั้งแต่ 10 โมงเช้าก็ไปทำตามระบบ และรอคิวการรักษา…

รอมาสักพักจึกบอกกับแฟนว่านั่งไม่ไหว แฟนจึงไปแจ้งพยาบาล จึงได้วิลแชร์มานั่ง แต่ไม่ไหวจริงๆ รู้สึกเหมือนจะเป็นลม พยาบาลจึงพาไปนอนในห้อง ห้องหนึ่งของ รพ. มีประมาณ 3-4 เตียง นอนรอหลายอยู่ชั่วโมง… จนรู้สึกว่านานพอสมควร จึงให้แฟนไปถามว่าใกล้ถึง คิวรักษาหรือยัง รอไปประมาณอีกชั่วโมงกว่า ถึงจะได้รับการตรวจ ตอนนั้นเกือบ 5 ชั่วโมง ที่นอนรอเฉยๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่มาสอบถามอาการเลย” 

หลังจากนั้นพี่เค้กก็ได้เล่าว่า คุณหมอเข้ามาตรวจผลคือคุณหมอแจ้งว่า อาจจะเป็นไข้เลือดออก เลยมีการส่งไปตรวจเลือด เราก็รออีกประมาณ 1 ชั่วโมงแต่อันนั้นเข้าใจได้ จนถึงคิดเรียกเข้าฟังผล… ผลเกล็ดเลือดของพี่เค้กจากเดิมมี 3 แสนลดเหลือ 1 แสน เปอร์เซ็นเลือด 31 เหลือ 27 จากที่มีน้อยอยู่แล้วเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับเลือด ก็น้อยเข้าไปใหญ่ 

ตัดสินใจถามหมอ “ผมนอนแอดมิทไหม หมอก็แจ้งว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต ไม่ต้องแอดมิท แต่ในใบรับรองแพทย์เป็นไข้หนาวสั่น 

แต่มาในวันต่อไป แล้วยังตรวจเลือดเหมือนเดิม ค่าเลือดและเปอร์เซ็นก็ยังคงลดอย่างต่อเนื่อง วันที่ 3 ก็เช่นกันแต่เป็นหลักร้อย เข้าวันที่ 4 ได้รับการตรวจกับหมออีกท่าน ตอนนั้นซักประวัติใหม่ทั้งหมด แต่กลับไม่ใช่ ไข้เลือดออกเหมือนหมอคนแรก และแจ้งว่า พรุ่งนี้ไม่ต้องมาแล้ว เพราะไม่เป็นอะไรแล้ว ทั้งที่ตัวเองยังรู้สึกไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ 

จนผ่านมาประมาณ 2 วันพี่เค้กได้ไปหาหมอเฉพาะทางตามนัดเกี่ยวกับเลือด คุณหมอที่ดูแลให้ตรวจเลือด หลังผลออก ให้แอดมิททันที และให้เลือดเพิ่ม  

 เรื่องนี้ทำให้คุณเค้ก คาใจอย่างมากว่าเพราะอะไร การวินิจฉัยโรคอาการของหมอ 2 ท่านก่อนหน้านี้ก็ไม่ตรงกัน ระบบการดูแลผู้ป่วย คิวรักษาที่นานเกือบ 5 ชั่วโมง ทั้งที่อาการตัวเองหนักจนแทบยืนไม่ไหวแต่ก็ไร้เจ้าหน้าที่ดูแล คุณเค้กเป็นอีก 1 เสียงกระบอกเสียง สะท้อนปัญหาที่เจอกับตัว…