โรคร้าย ที่ใครๆ ก็ไม่อยากเป็น!
เมื่อแพทย์หญิงเปิดเพจเฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวชีวิตของตน จากผู้รักษาโรค แต่ต้องผันตัวมาต่อสู้กับโรคร้ายเสียเอง
วันนี้ (28 ก.พ. 66) อีจันเจอกับเรื่องราว ของแพทย์หญิงณัฐรดา คชนันทน์ หรือ หมอลูกหมู ที่เปิดเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ พักก้อน เพื่อเล่าเรื่องราวชีวิตที่เหมือนโชคชะตาเข้ามาทำร้ายชีวิต
จัน จะพาย้อนเรื่องราวนี้ กลับไปเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 66 มีเพจชื่อ พักก้อน ถูกตั้งขึ้นมาในเฟซบุ๊ก พร้อมกับโพสต์แรกที่จั่วหัวโพสต์มาว่า
“สวัสดีเราชื่อลูกหมู”
หมอลูกหมู เล่าว่า เธอเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว และมีน้องหมาสายพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี เป็นเพื่อนรัก คุณหมอได้เรียนแพทย์ที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง เธอเป็นคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และไม่เที่ยวกลางคืน
ชีวิตในวงการแพทย์ของเธอเริ่มเมื่อ ปี 2563 เธอใช้ชีวิตกับการเป็นหมอ ที่มีความสุขมากกับการอยู่กับคนไข้ และรักษาคนไข้ จากความรู้และความสามารถที่เธอเรียนมา
เธอใช้ชีวิตบนเส้นทางหมออย่างมีความสุขได้ไม่นาน!
ปลายเดือนเมษายน ปี 2565 หลังเธออายุครบ 27 ปี ได้ไม่นาน เธอต้องเริ่มใช้ชีวิตในฐานะ คนไข้ โรคร้ายเข้ามากัดกินชีวิตเธอ โดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
เธอพบเห็นก้อนที่คอ มันโตเร็วจนจนสังเกตได้ แต่ไม่เจ็บ ไม่บวม และไม่แดง ด้วยความที่เป็นหมอ ก้อนที่โตเร็วและไม่เจ็บ ดูไม่เป็นมิตรเลยสักนิด จึงได้เจาะชิ้นเนื้อไปตรวจ
ความรู้สึกแรก ที่เธอจำได้ก่อนรู้ผลตรวจที่เธอต้องอ่านเองบนจอคอมพิวเตอร์ ในตอนนั้นเหมือนพื้นโลกที่เหยียบอยู่กำลังแตกออก และเหมือนเธอหล่นวูบลงไปในช่องว่าที่แยกออกมานั้น
“Diffuse large B-cell lymphoma”
มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดหนึ่งที่ดุและโตเร็ว
ใช่ค่ะคุณหมอลูกหมู เป็นมะเร็ง! และเป็นระยะที่ 4 แล้ว
ซึ่งหมอได้เปิดเผยข้อมูลว่า ใน 1 ปี จะมี 6,000 คนทั่วโลก ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ เรื่องนี้ทำให้หมอต้องหนักใจ และเป็นช่วงเลาที่เลวร้ายที่สุด
ทุกอย่างสรุปได้จากการทำ CT Scan เพื่อประเมินระยะของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก่อนเริ่มรักษา ผลออกมาว่า หมอลูกหมู มีก้อนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตรอยู่ในช่องทรวงอกของเรา อยู่ระหว่างปอดสองข้าง ใกล้ๆ กับหัวใจและพวงเส้นเลือดใหญ่ต่างๆ ที่รับเลือดเสียกลับเข้าหัวใจ และส่งเลือดดีออกไปเลี้ยงร่างกาย
คุณหมอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที ที่อาจารย์เห็นผล CT Scan ก้อนนั้น ไปกดเส้นเลือดใหญ่ จนอาจเกิดภาวะ SVC syndrome ซึ่งเป็นภาวะที่ทำให้ หน้าบวม แขนบวม และหายใจไม่ออก
ปลายเดือนเมษา ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น นั่นเป็นวันสุดท้ายที่หมอลูกหมูจะได้ทำงานในฐานะหมอ โดยที่ไม่รู้เลยว่า เธอจะได้กลับมาเดินบนเส้นทางหมออีกหรือไม่…
หมอเรียกเจ้ามะเร็งนี้ว่า “คุณก้อน” ชื่อเหมือนจะน่ารัก แต่ความจริงไม่น่ารักเหมือนชื่อเลยสักนิด
6 เดือนผ่านไป เธอต้องอยู่ที่บ้าน เพราะคุณก้อนทำให้เธอต้องพักผ่อน และต้องรับยาเคมีบำบัดให้ตรงเวลาอยู่เสมอ
โพสต์ล่าสุดของคุณหมอ โพสต์เมื่อ 25 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา หมออยากเล่าถึงมุมมองจากหมอ มาเป็นคนไข้ ซึ่งคุณหมอเล่าถึงเมื่อก่อนเธอเคยสั่งให้คนไข้ งดผลไม้เปลือกบางก็เป็นแค่ความเคยชินที่ทำให้สำหรับผู้ป่วยที่มารับเคมีบำบัด จนวันหนึ่งคุณหมอต้องมารับเอง และอยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน หายใจไปพร้อมกัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าในฐานะหมอ ที่ป่วยเองจะมีความคิด ความรู้สึก ต่างจากคนไข้ทั่วไปยังไงไง?
หมอลูกหมู บอกว่า สำหรับเธอเอง ไม่ต่างเลย ซึ่งกังวลมากกว่าคนไข้ด้วยซ้ำ!
ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมานั้น คนไข้คนนี้ ที่มีคำนำหน้าว่าแพทย์หญิง ทำให้เธอเข้าใจความเป็นคนไข้มากขึ้น เธอบอกว่า มีหลายครั้งที่เราเลือกจะนั่งลงข้างเตียงคนไข้ที่เพิ่งรู้ว่าเป็นมะเร็งเพื่อพูดว่า “กินข้าวเยอะๆนะคะ หมอรู้ว่ากินไม่อร่อยหรอก แต่ถ้าร่างกายเราแข็งแรง ผลการรักษาก็จะดีขึ้นนะ” สิ่งนี้ ทำให้เธอได้เราเรียนรู้ที่จะมองคนไข้ ให้เป็นมากกว่างานที่ต้องทำให้เสร็จ
จัน ได้ติดต่อเพื่อพูดคุยกับคุณหมอ ทราบว่า ตอนนี้ หมอลูกหมู มีอาการที่ดีขึ้นและจากการตรวจ PET SCAN ล่าสุดไม่มีมะเร็งเหลือในร่างกายแล้ว จนกลับมาทำงานเต็มเวลาได้แล้ว ในส่วนของชื่อเพจ คุณหมอบอกว่า ตั้งขึ้นจากเจ้าก้อนมะเร็งนี้เลย เพราะมีก้อนนี้ทำให้หมอได้พักผ่อน จนได้ชื่อเพจมาว่า “พักก้อน” ให้ทุกคนได้เข้ามาอ่านเรื่องราวกัน
ในส่วนอนาคตนั้น หมอลูกหมู บอกกับ จัน ว่า เธอตั้งใจจะใช้ชีวิตให้เต็มที่กว่าเดิม อยากทำอะไรก็รีบทำ อยากไปเที่ยวไหนก็รีบไป เพราะไม่รู้ว่าเราจะอยู่อย่างแข็งแรงไปถึงเมื่อไหร่ และเธออยากฝากถึงทุกคนว่า อยากให้เห็นความสำคัญของสุขภาพเยอะๆ ถ้าสุขภาพดีจะเป็นปัญหาอะไรเราก็สู้ไหว แล้วก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่กำลังต่อสู้อยู่ทุกคนเลย
อีจันได้อ่านเรื่องราวของหมอลูกหมูแล้ว เธอสู้มากค่ะ และดีใจที่ได้เห็นคุณหมอกลับมาเดินบนเส้นทางการแพทย์อีกครั้งนะคะ
คลิปอีจันแนะนำ
สาวบุรีรัมย์ ช้ำรักหนุ่มนักบอล