หากพูดถึงผลไม้สักชนิดหนึ่งของไทยที่ได้รับความนิยมในวงกว้าง มีเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และที่สำคัญมีราคาที่สูงพอสมควรคงจะหนีไม่พ้น ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ที่หลายคนหลงไหล แต่แน่นอนว่าอาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบ เพราะด้วยความที่กลิ่นของมันค่อนข้างฉุน และรุนแรง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากชาติตะวันตกที่น้อยคนนักจะชอบรับประทานทุเรียน ตรงกันข้ามกับชาวไทย หรือชาวเอเชียที่ยกให้ทุเรียนเป็นผลไม้ที่หลายคนหลงรักเลยทีเดียว
ล่าสุด เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายข่าวที่กำลังเป็นประเด็นให้ถกเถียงในวงกว้างอยู่ ณ ขณะนี้ หลัง ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มอาหารที่น่าขยะแขยง จากพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่ง ในเมืองมัลโม่ ประเทศสวีเดน
เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย คาริม บูคาดูรอฟ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในด้านท่องเที่ยวของสวีเดน ได้โพสต์วิดีโอขณะพาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ Disgusting Food Museum หรือ พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมอาหารน่าขยะแขยงที่สุดในโลกเอาไว้ด้วยกัน
ซึ่งแน่นอนว่า ก็มีอาหารที่น่าขยะแขยงจากหลากหลายสถานที่ทั่วโลกถูกรวมมาไว้ที่นี่ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หลายคนประหลาดใจไม่น้อย โดยเฉพาะชาวเอเชียนที่ต่างไม่เห็นด้วยอย่างแรง นั่นก็คือ ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 17 ของอาหารน่าขยะแขยงที่สุดในโลก ชาวเน็ตหลายคนต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า ทุเรียน ไม่ได้มีรสชาติแย่ถึงขั้นที่จะเรียกว่าขยะแขยงได้เลย แม้มันจะมีกลิ่นแรง หรือฉุน แต่หลายคนก็ชื่นชอบในรสชาติของมัน
อย่างไรก็ตาม ทางพิพิธภัณฑ์ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ทุเรียน แม้จะเป็นราชาผลไม้ และหลายคนก็ชื่นชอบในรสชาติ หรือกลิ่นของมัน แต่ก็มีไม่น้อยที่รู้สึกว่ากลิ่นของ ทุเรียน นั้น คล้ายกับกลิ่นถุงเท้าที่ยังไม่ได้ซัก หัวหอมที่เน่าเปื่อย หรือ สัตว์ที่ตายแล้ว ซึ่งเหตุที่ทำให้ต้องจัดอันดับทุเรียนอยู่ในอาหารขยะแขยงนั้น ก็ดูได้จากหลายสถานที่ รถสาธารณะ รวมไปถึงโรงแรมบางแห่งที่มีการติดป้ายห้ามนำทุเรียนเข้ามาอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : thethaiger.com