เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 65 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายสมชาย (นามสมมุติ) และ นางสมหญิง (นามสมมุติ) สองสามีภรรยา เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ธงชัย พานิชอำนวย รอง สว.(สอบสวน) บก.ปปป. (กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ)
แจ้งความร้องทุกข์กรณีถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด จ.ชลบุรี (ศอ.ปส.) ยัดยาเสพติด และยึดทรัพย์สินทั้งทองรูปพรรณ รถยนต์ และเงินสดมูลค่านับล้านบาทไป โดยฝ่ายภรรยาถูกดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ต้องอยู่ในเรือนจำ เป็นเวลานานกว่า 1 ปี สุดท้ายศาลตัดสินยกฟ้องทุกข้อหา ให้เธอเป็นผู้บริสุทธิ์
ซึ่งหลังจากออกมาจากเรือนจำได้ปรึกษา นายสมชาย (สามี) ก่อนจะชวนกันมาร้อง ผบช.ก.ให้ช่วยเหลือคืนความยุติธรรม พร้อมกับติดตามของกลางคืนที่ถูกยึดไปกลับคืน และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ฯ ชุดที่ยัดข้อหาให้เธอด้วย
นางสมหญิง เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2564 เธอถูกตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด 6-7 นาย บุกเข้าไปในคอนโดมิเนียม แล้วบังคับให้ยอมรับว่าอาวุธปืน และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง ที่ตำรวจนำมายัดเยียดให้ เป็นของอดีตสามี เพื่อแลกกับอิสรภาพ ซึ่งตำรวจชุดนี้อ้างว่าตรวจพบภายในห้องของเธอ โดยระหว่างนั้นตำรวจได้บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ จนมีคลิปหลุดออกมา
ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ไปจับกุม นายอ้น (อดีตสามี) ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ก่อนจะบุกมาจับเธออีกคน โดยบังคับให้ นายอ้น พามาที่ห้องของเธอ แล้วทำการตรวจค้นก่อนจะยึดทรัพย์สินต่างๆ ประกอบด้วยทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 20 บาท เงินสด 4 หมื่นบาท และรถยนต์ 1 คัน และพานางสมหญิงและนายอ้น ไปยังเซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง เพื่อรีดเงินอีก 5 แสนบาท โดยใช้กำลังทำร้าย นายอ้น และยังใช้ถุงดำคลุมศีรษะอีกด้วย
ขณะเดียวกันนายอ้นและนางสมหญิง ก็ยืนยันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเรียกร้องให้พนักงานสอบสวนตรวจปัสสาวะหลังถูกจับกุม ซึ่งก็ไม่พบสารเสพติด แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ สุดท้ายมาถูกพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เรียกเงินอีก 250,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่ทั้ง 2 คน หาเงินได้เพียง 65,000 บาท
ต่อมานายอ้น ถูกปล่อยตัวเพียงคนเดียว ส่วนนางสมหญิง ถูกดำเนินคดีส่งฟ้องข้อหาครอบครองยาเสพติดไว้จำหน่าย ไม่ได้รับการประกันตัว และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ เป็นระยะเวลากว่า 1 ปี
ขณะที่นางสมหญิง อยู่ในเรือนจำ เธอก็พยายามสู้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และมอบอำนาจให้นายอ้น อดีตสามีติดตามทรัพย์สินที่ถูกยึดไปกลับคืน กระทั่งเมื่อศาลตัดสินมีคำสั่งยกฟ้อง และเธอก็ไม่มีความผิด จึงขอเดินหน้าดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทุกนาย และขอคืนทรัพย์สินที่ถูกยึดไปทั้งหมด
นางสมหญิง กล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว มีพฤติกรรมอื้อฉาว ก่อเหตุอุ้มหญิงสาวรายหนึ่งไปกักขังไว้ในกรงสุนัขและรีดเงิน จนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้ว และล่าสุดเจ้าหน้าที่ฯ ชุดนี้ ถูกจับกุมแล้ว 10 นาย และยังเหลือคนอื่นที่ร่วมแก๊งอีกจำนวนหนึ่ง จึงอยากให้ดำเนินคดีกับทุกนายให้ถึงที่สุด เพราะยังหวาดกลัวกับอิทธิพลเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบพบว่า ผู้เสียหายประสงค์ร้องทุกข์ จึงพาผู้เสียหายไปพบเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รับเรื่องเสนอ ผบช.ก.พิจารณาสั่งการต่อไป
คลิปแนะนำอีจัน
อุทาหรณ์ ยายพลาดล้มติดช่องประตู