
มาตามกันต่อค่ะ หลังจากมีข่าวสาวอินฟลูเอนเซอร์สาวรายหนึ่ง มีเรื่องชู้สาวกับ “นักร้องดัง” จนนักร้องดังเกิดมีปัญหากับภรรยา ถึงขนาดลงเอยด้วยการหย่าร้าง
ล่าสุดกลับมาเป็นข่าวทางโซเชียลอีกครั้ง เมื่ออดีตสามีสาวอินฟูลฯ คนดังกล่าว ออกมาแฉว่า ถูกสาวอินฟูลฯ หลอกให้หย่า แล้วแอบไปคบนักร้องดัง แถมมีเรื่องทำคุณไสยใส่นักร้องดัง
โดย วันนี้ (13 มี.ค.68) ตั้ม อดีตสามี จ๊ะโอ๋ งามพริ้ง ออกมาเปิดใจผ่านรายการโหนกระแส เล่าว่า…
ที่ผ่านมาไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโซเชียลไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนมาเอะใจตอนลูกบอกว่ามีเพื่อนมาล้อเรื่องนี้ ก็เลยเอาซิมหน้ารถมาเสียบเข้ามือถือฟังดูค่อยรู้เรื่องราวต่างๆ
หลังจากเขาไปเที่ยวทะเลกันมาก็ได้คุยกัน แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับ จนค่อยๆ พูดออกมา ผมเก็บเรื่องนี้และความรู้สึกมาตลอด เขารู้ว่าผมรู้ แต่เขาก็ยังทำต่อ ระหว่างนั้นผมก็รู้เรื่องมาตลอดเวลาเขาโทรคุยกันผมก็นอนฟัง
ผมกับจ๊ะโอ๋ คบกันมาเมื่อ 15 ปี ก่อนแต่จะไม่ได้ว่าจดทะเบียนสมรสตอนไหน และเพิ่งหย่ากันเมื่อ 26 มิ.ย. 66 วันที่หย่าก็ยังไม่รู้เรื่องราวที่เขาคุยกัน เข้าใจว่าหย่ากันเพราะเกี่ยวกับเรื่องบัญชีของบริษัท เลยหย่าให้ หลังจากหย่าก็อยู่กินกันฉันสามีภรรยาปกติ แล้วเขาก็บอกให้รอมาตลอด ผมก็ไม่ได้ถามอะไร ยังคงนอนกอด นอนฟังเขาโทรคุยกัน จากนั้นเขาก็เริ่มพฤติกรรมเปลี่ยนไป จากเคยอยู่บ้านก็จะมาอาทิตย์เว้นอาทิตย์ไป คิดว่าไปทำคอนเทนต์ไปขายของก็เลยปล่อยไป
เงินลงทุนในการทำสครับต่างๆ ก็เป็นเงินผมเพราะบ้านเขาจนมาก พอได้เงินมาก็หากินร่วมกันเป็นครอบครัวกระเป๋าเดียวกัน
เรื่องทำคุณไสยใส่นักร้องดัง
หลังจากได้ยินคลิปเสียงจากกล้องหน้ารถ ผมก็พยายามหาข้อมูลหลายๆ อย่างจนไปเจอภาพทำคุณไสย
กระทั่งวันที่ 1 มี.ค.68 พี่สาวผมโทรมาเรื่องนี้ก็เลยทะเลาะกัน และมีคลิปเสียงที่ฝ่ายชายข่มขู่ผมไม่ให้ผมเข้าบ้าน ประมาณว่าอย่าทำกันแล้วทำไมถึงมาอยู่ในบ้าน สุดท้ายผมก็ได้ออกจากบ้าน แล้วก็ไม่ได้ติดต่อจ๊ะโอ๋อีกเลยติดต่อแค่กับลูก
ทั้งนี้ ได้มีเพจดัง เปิดคลิปเสียง เมื่อปี 66 ที่ตั้มบอกให้จ๊ะโอ๋ หาเมียใหม่ให้ ประมาณว่า “ถ้าจ๊ะโอ๋ไม่เอาพี่แล้ว ก็ให้หาเมียใหม่ให้ ขอให้รวยๆ ที่เลี้ยงพี่ได้”
ประเด็นจ๊ะโอ๋แจ้งความเอาผิด บอกใช้ปืนจ่อหัวลูก?
ตั้มยืนยันว่า ผมไม่ได้ขโมยของในวันที่หย่าแล้ว ผมแค่เข้าไปเอาของทรัพย์สินของผมที่มีอยู่ เอาแค่ส่วนของผม เช่นทองพระที่ผมสะสมเอาไว้ เขาเอาทองผมไปจำนำ 20 บาท ยืนยันว่าเป็นทองของผมที่เขาเก็บเอาไว้ ซึ่งได้มาจากแม่ของผมเพื่อมาตั้งต้น คลิปเสียงตอนไปเอาทอง ผมเป็นคนปล่อยคลิปเอง เพราะต้องการความยุติธรรม
ที่เขาบอกว่า ตั้มเอาปืนไปจ่อหัวลูก?
ยืนยันว่าผมไม่เคย ลูกผมผมก็รักของผม และไม่เคยเอาปืนไปไล่ยิงคนในบ้าน เพราะผมไม่มีอาวุธอยู่แล้ว
ตั้มยอมรับว่านำเงินไปเล่นพนันตีไก่ ตีมาตั้งแต่ก่อนเจอเขาแล้ว แต่ไม่รีดเงินจากเขา เป็นเงินในครอบครัวที่หามาได้ด้วยกัน เขาก็สนับสนุนผมให้ผมไปซื้อสายพันธุ์ไก่มา ราคากว่า 2 แสน ผู้หญิงบอกให้อยู่เฉยๆ อยากได้เงินตีไก่ก็จะให้ไปตี เพราะฉะนั้นจะบอกได้ยังไงว่าเขาเบื่อหน่ายที่ผมตีไก่ทั้งๆ เขาเป็นคนสนับสนุน
แถมเมื่อคืนลูกก็ทักมาตามผมกลับบ้านบอกว่าน้องร้องไห้คิดถึงพ่อ บอกว่าถ้าพ่อไม่สบายหนูกับน้องจะไปเฝ้าเอง และยอมรับว่าผมบอกลูกไว้เตรียมตัวไปเรียนโรงเรียนวัด เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นผมยังพอส่งได้
ทำงานค้าขายมีธุรกิจผิดกฎหมายไหม?
ผมกับเขาอยู่ด้วยกันก็เคยมีเรื่องเทาๆ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ไปด้วยกันตลอดทำด้วยกันตลอด จนมีมาและเริ่มทำแบรนด์ ส่วนเรื่องปืนมีกระบอกนึงเป็นชื่อของพ่อเขาแต่ถ้าชื่อผมเลยไม่มี
ส่วนประเด็นที่ว่าเขาอ้างว่า เวลาซื้อรถเขายินดีใส่ชื่อผม แต่ผมไม่กล้าเพราะผมทำธุรกิจผิดกฎหมาย ยืนยันว่า ตอนนี้ผมทำธุรกิจใสซื่อ เคยทำธุรกิจเทา แต่พอเลิกทำแล้วก็ไม่ได้คิดจะใส่ชื่อผม เพราะไว้ใจภรรยา

ที่ผมออกมาพูดในวันนี้เพราะต้องการเซ็นสมรส แต่ไม่รู้ว่าตัวเงินตอนนี้เป็นยังไง ถ้าผมเรียกร้องไปก็กลัวเขาไม่มีให้ ขอคนละครึ่ง ยอดที่เห็นไม่ต่ำกว่า 45 10 ล้านแต่ตรงนี้ไม่เห็นจำนวนเงินแล้ว
หนุ่ม กรรชัย: อยากให้เขากลับมาไหม?
ตั้ม: ตอนนี้ยังไม่อยากให้เขากลับมาครับ
หนุ่ม กรรชัย: ไม่อยากให้กลับมาแล้วนะ
ตั้ม: ไม่อยากให้กลับมาแล้วครับ
เพื่อนตั้ม: ผมไม่อยากกินอาหารหมาครับพี่ ออกจากมา 7-8 ครั้งแล้วครับ
หนุ่ม กรรชัย: แน่ใจเหรอ เห็นไปร้องห่มร้องไห้อยู่
ตั้ม: มันคือตอนนั้นครับ ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว มันหลายรอบแล้ว แต่ล่าสุดฝ่ายหญิงนำลูกมา บอกให้ผมกลับบ้านไปดูลูก แต่ไปดูทีไรก็นอนด้วยกันทุกที รอบนี้ผมมออกมา 10 วันแล้ว ยืนยันจะไม่กลับไปแล้ว
ทั้งนี้ พี่สาวตั้มได้โทรเข้ารายการ เปิดใจว่า…
“ที่ตั้มเขามาตรงนี้เพราะเขาถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าบ้าน และอยากเรียกร้องเรื่องสินสมรส และอยากถามฝ่ายชายทางนั้นว่ารับรู้เรื่องที่เขากับภรรยาเขาอยู่กินด้วยกันจนถึงวันที่ 1 มี.ค.68 ที่ออกจากบ้านหรือเปล่า? ถ้าเขารู้ก็เดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ถ้าเขาไม่รู้อยากรู้ว่าเขาจะตกลงที่จะไม่ยุ่งกับครอบครัวของน้องชายหรือเปล่า?
ในฐานะพี่สาวอยากให้เขาได้รับความยุติธรรม สินสมรสครึ่งๆ ก็ดี หรือถ้าคุณจ๊ะโอ๋ไม่อยากให้เป็นคดีความก็สามารถติดต่อมาเจรจาได้”
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรออีกฝ่ายออกมาชี้แจงอีกทีค่ะ หากมีความคืบหน้าจะอัปเดตให้ทราบ