จนท.กรมอุทยานฯ เผย หน่วยงานถูกตัดงบมากถึง 70%

จนท.กรมอุทยานฯ ซึ่งถูก อธิบดีกรมอุทยานเรียกรับเงิน เผย งบประมาณดูแลสัตว์ป่าถูกตัดสูง 70% หัวหน้าหน่วยเป็นหนี้เพราะต้องไปกู้เงินมาเลี้ยงลูกน้อง

จากกรณี อธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกกล่าวหา เรียกรับเงินลูกน้องในสังกัดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 65 ซึ่งได้รับการประกันตัวชั่วคราว วงเงินสี่แสนบาท ขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เขาให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีดังกล่าวแล้ว

จนท.กรมอุทยานฯ ให้การปม อธิบดีเรียกรับเงิน เผย โดนบังคับ!

ล่าสุดวันนี้ (6 ธ.ค. 66) เวลา 15.00 น.

หนึ่งในเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จ.อุบลราชธานี ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อหลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. โดยยอมรับว่า ที่ได้เดินทางเข้ามาให้ปักคำในครั้งนี้ พวกตนได้มาตามหมายเรียกที่ได้รับและการให้ข้อมูลครั้งนี้อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานในอนาคต แต่เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ จำเป็นต้องออกมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมามีปัญหาในเรื่องของการถูกตัดงบประมาณการดูแลป่าและสัตว์ป่าขณะที่ในส่วนของการทำงานมีความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากในช่วงที่ไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิดทำให้งบประมาณถูกตัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

แต่ตนขอให้ประชาชนเข้าใจว่าคดีความที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับบุคลากรและหน่วยงานทั้งหมดของกรมอุทยานฯ ซึ่งที่ผ่านมาหลายคนมีปัญหาเรื่องหนี้สิน เนื่องจากงบประมานการดูแลสัตว์ป่าถูกตัดออกไปมากถึง70% ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าหน่วยต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อนำเงินมาใช้ในการดูแลลูกน้อง สัตว์ป่า และส่งให้กับอธิบดีตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

แต่ในส่วนของการให้ปากคำ รายละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้เป็นไปตามกฏหมาย ส่วนรายละเอียดของคดีก็เป็นไปตามที่หัวหน้าของพวกตน หรือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ.9 (อุบลราชธานี)

ส่วนในกรณีที่ว่ามีการข่มขู่พยายามทางคดีนั้น สำหรับพวกตนไม่ได้ถูกข่มขู่หรือถูกผู้ใหญ่กดดันแต่อย่างใด ส่วนตัวตนแล้วไม่ได้กลัวอำนาจใด แต่สิ่งที่กลัวคือ กลัวสัตว์ป่าและต้นไม้ที่เราดูแลไว้อย่างดีจะเสียหายไปมากกว่าเดิม

ถามว่าที่ผ่านมาอึดอัดไหมก็ต้องยอมรับว่าพวกตรซึ่งเป็น ผู้พิทักษ์ป่า ที่ทำงานภาคพื้นสนาม พวกตนอยู่กับความลำบากอยู่แล้ว แม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะเสริมความลำบากเข้าไปอีก แต่พวกตนก็ยังยืนหยัดที่จะอยู่ให้ได้ด้วยอุดมการณ์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผืนป่าให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของกรมอุทยาน เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่มีความตั้งใจรวมถึงตัวของตนด้วยในการทำงานเพื่อพิทักษ์ผืนป่า วันนี้ตนจึงกล้าที่จะออกมาให้ข้อมูล

การดำเนินคดีก็ขอให้ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ใครจะทำอะไรก็รับกรรมไปตามนั้นเพราะมันมีกฎหมายมีหน่วยงานที่จะดำเนินการตรวจสอบและตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม

คลิปอีจันแนะนำ
เหตุการณ์ในห้องอธิบดีอุทยานฯ ขณะ ปปป. ปปช. ตรวจสอบ ปม เรียกรับเงินลูกน้อง