เชียงรายวิกฤต! ฝุ่นพิษปกคลุม ชาวบ้านแห่ซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ขาดตลาด

วันนี้ (29 มี.ค. 66) กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงรายในวันนี้ยังอยู่ในสภาพส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพบว่า จ.เชียงราย ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่า แต่บางตาลงบ้างเล็กน้อย

สืบเนื่องจากวานนี้ (28 มี.ค. 66) กองทัพอากาศ โดยกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศได้ส่งเครื่องบินลำเลียง (BT-67) บินโปรยละอองน้ำเพื่อดับไฟและบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองในอากาศ ในหลายพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่เกิดจุดฮอตสปอตและไฟป่า เพื่อให้ละอองน้ำที่ทำการโปรยจากความสูงเหนือพื้นที่เป้าหมาย เกิดการกระจายตัวครอบคลุมเป็นบริเวณกว้างและจับตัวกับฝุ่นละอองเพื่อบรรเทาความรุนแรงของปัญหาหมอกควันทำให้ฝุ่นละออง PM2.5

โดยพบว่าที่อำเภอแม่สายจากที่ช่วงเช้านี้มีค่าฝุ่นละอองในอากาศลดเหลือ 313 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) จากวันก่อนที่มีค่าสูงกว่า 500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) ในขณะที่อำเภอเมืองเชียงรายพบว่าค่าฝุ่นละอองในช่วงเช้านี้ลดงเหลือ 178 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) จากวันก่อนที่มีค่าสูงถึง 407  ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3)

อย่างไรก็ตาม ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กยังส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นวงกว้างในด้านสุขภาพทำให้ประชาชนต่างเก็บตัวอยู่ภายในบ้านปิดประตูหน้าต่างมิดชิด หลายคนเลือกที่จะพากันไปเดินห้างสรรพสินค้าและศูนย์กลางค้า เพื่อหลบหมอกควันและหาพื้นที่ที่มีอากาศที่ดีกว่า

ขณะเดียวกัน ประชาชนบางกลุ่ม ได้เลือกหาซื้อเครื่องฟอกอากาศเพื่อนำไปติดตั้งที่ทำงานและที่อยู่อาศัย ทำให้เป็นสินค้าชนิดนี้ขายดีและหมดสต็อกอย่างรวดเร็ว และไม่ทราบว่าจะมีสินค้าเข้ามาเมื่อไหร่ ทำให้ประชาชนที่ต้องการเครื่องฟอกอากาศต่างแชร์สอบถามในโลกโซเชียลมีเดียกันจ้าละหวั่น แต่ไม่ได้คำตอบทำให้หลายคนผิดหวังและหันไปไปซื้อพัดลมไอน้ำเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้แก้ปัญหาหมอกควันได้ไม่มากก็น้อย

นายเหน่ง พนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัทหนึ่ง กล่าวว่า ช่วงนี้เครื่องฟอกอากาศของบริษัทขายดีเป็นอย่างมาก โดยมีการเข้ามาซื้อโดยตรงและจองผ่านระบบออนไลน์ จนสินค้าในสต็อกหมดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่ร้านดังกลางศูนย์กลางค้าที่บริเวณชั้นจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ ชั้นวางก็แทบไม่มีมีสินค้าเครื่องฟอกอากาศให้เห็นเช่นกันเพราะมีการมาซื้อไปจนหมดเกลี้ยง

ด้าน ยายรี อาชีพค้าขาย กล่าวว่า ยอมรับว่าปัญหาหมอกควันนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวส่งผลต่อสุขภาพ เช่นทำให้เจ็บตา แสบคอแสบจมูก ตนเองต้องสวมหน้ากาศอนามัยตลอดเวลาเมื่ออยู่นอกบ้านแต่ก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่สะดวก เมื่อกลับเข้าบ้านจะรีบปิด ประตู หน้าต่างให้มิดชิดพร้อมเปิดแอร์และเครื่องฟอกอากาศ และถอดหน้ากากอนามัยออกเพื่อสูดดมอากาศที่ดีกว่าเข้าไป จึงอยากขอร้องว่าอยากให้ผู้ที่กำลังเผาเพื่อทำการเกษตรหรือเผาทุกชนิดงดการเผาในช่วงนี้

ล่าสุดยังพอมีข่าวดี โดยเจ้าหน้าที่กรมการปกครองร่วมกับทหาร สามารถจับมือเผาป่าได้ที่ ม.11 ห้วยแม่ซ้าย บ้านยะฟู ต.แม่ยาว จ.เชียงราย เสียหาย 3 ไร่ 3 งาน 17 ตารางวา เขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดอยบ่อ จ.เชียงราย เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา

อีจัน ขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทุกหน่วยงาน ด้วยนะครับ