เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ ทนายอนันต์ชัย ลั่น ฮ่องเต้เปลี่ยนตัวแล้ว!

ทนายอนันต์ชัย เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ ยื่นคำร้อง ป.ป.ช. ยัน จะล้างวงการตำรวจใหม่ให้หมด เผย มีสายจากคนในรัฐบาลโทรสั่งให้หยุด

วันนี้(5 ต.ค. 66) ที่ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ เปิดใจถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น กรณีนายตำรวจใกล้ชิดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกกล่าวหาเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ ว่าตนได้รับการติดต่อจากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ให้เข้ามาช่วยเหลือดูแลคดีให้กับ 8 นายตำรวจ โดยยังคงเป็นทนายความให้กับทั้ง 8 คน ส่วนนายตำรวจคนไหนที่มีทนายความก็ให้อยู่ในความรับผิดชอบของทนายความ ยอมรับว่าไม่มีหนังสือแต่งตั้งทนายความเพราะยังไม่เข้าสู่ชั้นศาล ส่วนพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ไม่ได้ถูกดำเนินคดีจึงไม่มีการแต่งตั้งทนายความ และตนก็ไม่เป็นทนายให้

ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่ตนออกมาเปิดเผยกรณีดังกล่าวแล้วถูกสั่งปิดปากนั้น คนที่สั่งปิดปากเป็นคนมีตำแหน่งในรัฐบาล เป็นพลเรือน ขณะนี้ฮ่องเต้เปลี่ยนแล้ว ไม่ใช่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่เป็นผู้ใหญ่ ที่เป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์

ทั้งนี้ ตนได้มีการร่างเอกสารการร้องทุกข์กล่าวโทษเรื่องของดาวบนบ่าให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งช่วยพิจารณา โดยข้อมูลที่ตนฟ้องวันนี้เป็นเพียงปฐมบท โดยจะมีซีรีย์ตามต่อมาอีก

ทนายอนันต์ชัย ยืนยันว่า บิ๊กโจ๊กไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะตนไม่ได้เป็นทนายความของพี่โจ๊กแล้ว ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรกับพี่โจ๊ก ยังรักกันดี เข้าใจหน้าที่การงานของบิ๊กโจ๊ก และ ระบบราชการของตำรวจเป็นอย่างไร โดยผู้ใหญ่ท่านนี้ที่มาวันนี้ทำเพื่อองค์กรของตำรวจ ซึ่งการกระทำในวันนี้เป็นการกระทำที่เปรียบเหมือนเด็ดดอกไม้สะเทือนดวงดาว โดยดาวหมายถึงดาวบนบ่า

ส่วน double big surprise หมายถึงตน ทนายกระดูกเหล็กและผู้ใหญ่ 1 ท่าน

ซึ่งในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ ทนายอนันต์ชัยได้หลุดชื่อผู้ใหญ่ที่จะมาในวันนี้ คือ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั่นเอง

ส่วนที่บิ๊กโจ๊กบอกว่าให้ตนเองหยุด แต่ตนเองบอกว่าขณะนี้อยู่ในสนามรบ ไม่สามารถหยุดได้ เพราะอีกฝ่ายยังแทงทุกวัน หาเรื่องทุกวัน ความเป็นความตายยังไม่พ้น

นักข่าวถามถึงภาพถ่ายของบิ๊กโจ๊กและบิ๊กต่อในห้องอาหารเป็นละครหรือไม่ ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เป็นละครน้ำเน่า

ส่วนทนายทะแนะ (ทนายความ 2 คน) ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์และด่าตนเองนั้น ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิด พร้อมย้ำว่าต่อไปนี้ตนจะไม่พูดแต่จะฟ้องเลย