อัปเดตเคส น้องออม ว่าที่นักศึกษาคณะเภสัช ม.ขอนแก่น สงสัยกินยาขาว ตรวจเจอสารยาบ้า เครียดกลัวไม่ได้เรียนเภสัช
จากเหตุการณ์ น้องออม อายุ 19 ปี ว่าที่นักศึกษาคณะเภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น ต้องตรวจร่างกายก่อนเข้าเรียน ตามระเบียบของมหาวิทยาลัย แต่ปรากฏว่าเจอ “สารเมทแอมเฟตามีน” ชนิดเดียวกับยาบ้า อยู่ในปัสสาวะ ทางโรงพยาบาล ไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจสุขภาพให้ได้ ทำให้เธอและแม่ถึงกับเครียด ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และสงสัยว่าผลิตภัณฑ์ผิวขาว ที่สั่งซื้อจากติ๊กต็อก มีสารดังกล่าวหรือไม่
ความคืบหน้า ล่าสุดวันนี้ (19 พ.ค. 66) ครอบครัวได้พา น้องออม อายุ 19 ปี ว่าที่นักศึกษาคณะเภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์อีกครั้ง เพื่อนำไปประกอบการมอบตัวเข้าเรียนคณะเภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 31พ.ค.นี้
ปรากฏว่า… ผลการตรวจร่างกาย น้องออม ไม่พบสารเสพติดใดๆ ทำให้ทั้งพ่อและโล่งอก
น้องออม เปิดเผยว่า ดีใจที่ผลตรวจเลือดเป็นลบ และขอยืนยันว่าไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่กินยามั่ว แม้แต่ยาแก้ปวดตอนปวดท้องประจำเดือน ก็ยังไม่กินยาแก้ปวด ส่วนการพบสารแอมเฟตามีนที่ตรวจเจอนั้น ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น
ทางด้าน พ่อน้องออม เปิดเผยว่า ผลที่ออกมาตรงกับพฤติกรรมของลูก เพราะลูกไปไหนมาไหนกับครอบครัวตลอดเวลา แม้แต่การทำงานเสริ ยังต้องให้ไปทำงานที่เดียวกับแม่ นอนกับแม่ แทบจะเป็นคนเดียวกัน โอกาสที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดยังมองไม่ออก ตอนนี้ถือว่าโล่งอก โดยเฉพาะผลที่ได้ในวันนี้แพทย์ ระบุว่า สามารถนำเอาไปอ้างอิงกับการสถานศึกษาได้ทันที ไม่ต้องไปตรวจซ้ำอีก เพราะตรวจอย่างละเอียดแล้ว
ส่วนผลการตรวจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว จะออกมาเป็นอย่างไร ครอบครัวก็พร้อมจะรับฟัง แล้วหาที่มาว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่พบสารแอมเฟตามีน ในอาหารเสริมผิวขาว ที่น้องกินเข้าไป
ขณะที่ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยืนยันว่า คณะเภสัชศาสตร์ได้กำหนดเป็นวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และได้ให้นักเรียนที่มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ยื่นผลการตรวจร่างกายในวันสอบด้วย ซึ่งทางคณะยังไม่ได้ดำเนินการสัมภาษณ์หรือตัดสิทธิผู้เข้าสอบคนใดทั้งสิ้น เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตาม ในการสอบสัมภาษณ์ของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถ้าปรากฏว่า มีผู้เข้าสอบที่ผลการตรวจร่างกาย ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ ทางคณะจะขอให้ไปตรวจร่างกายซ้ำ เพื่อยืนยันผลที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อไป โดยไม่ได้ตัดสิทธิการเข้าเรียนทันที