ผบก.ทล. สั่งรื้อยกทีม ชุดเฉพาะกิจ สอบ ส่วยสติ๊กเกอร์ ป้องกันการทับซ้อน

รื้อยกทีม! ผบก.ทล. สั่งยกเลิก ชุดเฉพาะกิจ ทั้งหมด ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบ ปม ส่วยสติ๊กเกอร์ หลัง ตร. ตั้งจเรตำรวจ เพื่อ ป้องกันการทำงานทับซ้อน

ประเด็นเรื่องส่วย ยังมีผลกระทบไปทั่วทุกวงการ ล่าสุดหลังจากที่มีข่าวการย้าย พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เซ่มปมส่วยสติ๊กเกอร์ออกมานั้น ทางนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.จากพรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาให้ข้อมูล ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ไม่ได้ถูกสั่งย้าย หรือถูกเด้งแต่อย่างใด แต่เป็นการแสดงสปิริตขอย้ายตนเอง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอแสดงความชื่นชมในสปิริต และมาตรฐานทางจริยธรรมของท่านไว้ด้วย

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ก็ได้ออกมายอมรับว่า มีกระบวนการรับส่วยในลักษณะดังกล่าวจริง และได้สั่งการให้จเรตำรวจ รีบไปดำเนินการตรวจสอบโดยเร็ว หากสืบสวนขยายไปถึงผู้รับ ผู้ให้ ใครที่เกี่ยวข้องกระทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและทางอาญา

ล่าสุดวันนี้ (1 มิ.ย. 66) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า วันนี้ตนจะเซ็นคำสั่งยกเลิกการตั้งชุดเฉพาะกิจทั้งหมด ที่มีอยู่ใน บก.ทล.ทั้งหมด ซึ่งเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ทั้งชุดของกองบังคับการ, กองกำกับการ, และชุดที่ถูกแต่งตั้งในระดับสารวัตร ดังนั้นจึงต้องยกเลิกทั้งหมด ให้เป็นลายลักษณ์อักษร หลังจากที่เมื่อวานมีคำสั่งด้วยวาจาไปแล้ว และขอสงวนการแต่งตั้งชุดเฉพาะกิจไว้ ให้กับระดับผู้บังคับการเท่านั้น ที่จะเป็นผู้พิจารณาเป็นกรณีตามความจำเป็น และเมื่อยกเลิกชุดเฉพาะกิจแล้วจะให้ตำรวจทางหลวงกลับมาบังคับให้กฎหมายหลักอย่างจริงจัง

โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าทีตำรวจสามารถจับรถบรรทุกหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ 7-8 คัน หลังจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง วันนี้ในการประชุมจะให้แต่ละกองกำกับการ และหน่วยต่างๆ รายงานข้อมูลของส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกในพื้นที่ ว่ามีจำนวนเท่าใด และหน่วยงานไหนเป็นผู้ออกให้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูล ของ บก.ปปป. พบมีข้อมูลสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคเอกชน และตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงข้อมูลจากจเรตำรวจแห่งชาติ

นอกจากนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อสอบสวนชุดเฉพาะกิจดังกล่าวนี้ เพราะชุดเฉพาะกิจนี้ ตั้งขึ้นมาเมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นตัวประสานระหว่าง ตร.ทล. และ สหพันธ์ขนส่งฯ ในเรื่องต่างๆ และการยกเลิกในครั้งนี้ ก้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการสอบ ที่ทางส่วนกลางตั้งขึ้นมา

ทั้งนี้ยอมรับว่ามีหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องกับส่วยดังกล่าว แต่ตำรวจถือเป็นด่านหน้าและใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด จึงทำให้ถูกจับตามอง และมีข้อมูลต่างๆค่อนข้างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีข้อมูลทางลับจากแหล่งต่างๆ จำนวนมาก แต่ยังไม่พบว่าบุคคลที่ให้ข้อมูลมา มีพยานหลักฐานชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นเพียงคำบอกเล่า และภาพถ่ายของสติ๊กเกอร์ และข้อมูลสติ๊กเกอร์ที่ทางตำรวจมีข้อมูล ไม่ได้มีเฉพาะแค่ที่มีการเปิดเผยผ่านสื่อต่างๆ แต่มันมีมากกว่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้ได้นัดหมายกับนายกสมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย เข้ามาให้ข้อมูลการทุจริต ส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก รวมไปถึงหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหา ส่วนการประสานขอข้อมูลจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตอบรับกลับมา แต่ตนอาจจะประสานไปด้วยตนเอง ทั้งนี้ ตนเองชื่นชมนายวิโรจน์ที่นำข้อมูลการทุจริตต่างๆมาเปิดเผย และติดตามข้อมูลต่างๆ ที่ออกมาเปิดเผย รวมไปถึงส่วยในลักษณะอื่นๆด้วย ทั้งนี้ยินดีที่จะร่วมงานกัน ในเรื่องของการปราบปรามการทุจริต แต่ต้องไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง

คลิปอีจันแนะนำ
28 ปี สู้ ส่วยสติ๊กเกอร์ ไร้เงาแก้ไข