9 คนไทย หนีตายเกาะประตูรั้วด่านพรมแดนไทยอรัญประเทศ

9 คนไทยหนีตาย ถูกชาวจีนหลอกทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา

เกาะรั้วหนีตาย!!!

เมื่อวันที่( 18 ธ.ค.66) พ.อ.ปิยะ เณศร์ ภัทรศาศวัตรวงษ์ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่12กองกำลังบูรพา

ได้รับแจ้งจากเพจเฟซบุ๊ก”ช่วยเหลือคนไทยในปอยเปต”และเพจเฟซบุ๊ก”ก็แค่คนธรรมดา”ขอความช่วยเหลือให้ช่วยคนไทยจำนวน 9 คน ที่ถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ของชาวจีนในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา แล้วถูกกักขังทุบตีทารุณ จนทนไม่ไหว รวมตัวกันหลบหนีออกจากที่กักขังมาได้ ทำให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ

ขณะนี้รอความช่วยเหลืออยู่ที่บริเวณประตูด่านพรมแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว

หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่1201 ไปประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว นำกำลังไปตรวจสอบที่บริเวณประตูด่านพรมแดน จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามด่านพรมแดนปอยเปต ประเทศกัมพูชา บนสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา พบคนไทยจำนวน 9 คนเป็นชาย 8 คน หญิง 1 คน สภาพเนื้อตัวมอมแมมบางคนมีบาดแผลที่แขนและขา ยืนเกาะประตูรั้วด่านพรมแดนฝั่งไทย แล้วตะโกนขอความช่วยเหลือเนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเปิดด่านพรมแดน เวลา 06.00 น.โดยพบว่าหลายคนได้รับบาดเจ็บและไม่มีหนังสือเดินทาง จนท.จึงร่วมกันเปิดประตูด่านพรมแดน แล้วช่วยเหลือคนไทยทั้ง 9 คน มาพักที่กองร้อยทหารพรานที่1201 จต.อ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

จากนั้นได้ประสานไปยัง มูลนิธิสว่างเที่ยงธรรมสถานอรัญประเทศส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมรถกู้ชีพมารับตัวคนไทยทั้ง 9 คน ไปทำแผลเบื้องต้นที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกของมีคมฟันที่ขาจำนวน 1 คน และถูกฟันที่มือ1คน และบาดเจ็บที่มือและแขนจากการถูกลวดหนามบาดจำนวน 2 คน นอกนั้นได้รับบาดเจ็บฟกช้ำและถลอกเล็กน้อยตามร่างกาย แพทย์โรงพยาบาลอรัญประเทศได้ทำแผลให้ทุกคนก่อนจะนำคนไทยทั้ง 9 คนกลับมาทำการซักถามที่ กองร้อยทหารพรานที่1201 อีกครั้ง

โดยมีนายจักรพงษ์ พันธ์โชติ นายอำเภออรัญประเทศ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ. คลองลึก พร้อมด้วย จนท.พม.สระแก้ว (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว) เดินทางมาร่วมซักถามด้วยตนเอง

ซึ่งคนไทยทั้ง 9 คนประกอบด้วย

1.นาย ปรัชญามณี อายุ 27 ปี ชาวสระแก้ว

2. นาย พุฒิพงษ์ อายุ 30 ปี ชาวสระแก้ว

3. นาย จักรกฤษณ์ อายุ 21 ปี ชาวเชียงใหม่

4. นาย กมล อายุ 47 ปี ชาวประจวบคีรีขันธ์

5. นาย ทยากร อายุ 43 ปี ชาวฉะเชิงเทรา

6. นาย ชินดนัย อายุ 23 ปี ชาว กทม.

7. นาย ธนกิจ อายุ 23 ปี ชาว จ.แพร่

8. นาย ภูมิพัฒน์ อายุ 27 ปี ชาวปทุมธานี และ

9. น.ส.นันท์นภัส อายุ 23 ปี ชาวมหาสารคาม

ทั้งนี้นายภูมิพัฒน์ ชัยราช เผยว่าพวกตนทั้ง 9 คน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีชาวจีนเป็นเจ้าของ หลอกลวงอ้างว่าให้ไปทำงานบริษัทเทรดหุ้น ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้เงินเดือนสูง โดยบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมดและบอกว่าไม่ต้องมีพาสปอร์ตก็สามารถพาไปทำงานได้ โดยพาข้ามไปฝั่งปอยเปต ทางช่องทางธรรมชาติ แต่เมื่อเดินทางมาถึงฝั่งปอยเปตบางคนถูกจับตัวเอาถุงคลุมหัวมาจากฝั่งไทย เมื่อถึงฝั่งปอยเปตกัมพูชากลับถูกจับมาขังและบังคับให้ทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย โดยกักขังไม่ให้ออกไปไหนยึดโทรศัพท์และสิ่งของไปหมดให้นอนอยู่ในห้องแคบ ๆ ห้องละ20คน บริเวณชั้น 7 ของตึก 25 ชั้น เป็นคาสิโน ใกล้ตลาดน้ำพุ กลางเมืองปอยเปต และหากใครไม่ทำตามก็จะถูกซ้อมทุบตี และช็อตด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้า

ซึ่งในภูริคาสิโน มีคนไทยที่ถูกกักขังบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 200 คน และมีหญิงสาวชาวไทยบางคนถูกบังคับให้ค้าประเวณี ทำให้พวกตนทนไม่ไหวจึงรวมตัวกันได้ 11 คน ชักชวนกันหาทางหลบหนีเนื่องจากได้ข่าวว่านายทุนชาวจีนกำลังจะขายพวกตนต่อไปอีก กระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 18 ธ.ค.66 พวกตนจึงใช้ไฟจุดเผาที่นอนในห้องเพื่อให้เกิดไฟไหม้ระหว่างชุลมุนจึงได้พังประตูและหน้าต่างหนีออกมาแต่ก็มาเจอกับพวกการ์ดและ รปภ.ของพวกมันจึงมีการต่อสู้กันทำให้บางคนถูกการ์ดของบ่อนฟันด้วยมีด แต่สุดท้ายพวกตนหนีออกมาได้เพียง 9 คนเพื่อนอีก 2 คนถูก จับกลับไปได้ พอหนีมาถึงด่านพรมแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต พบว่าประตูด่านพรมแดนยังไม่เปิดทำให้พวกตนต้องปีนรั้วประตูด่านพรมแดนจากฝั่งปอยเปตมาขอความช่วยเหลือจาก จนท.ไทยอยู่ที่บริเวณประตูด่านพรมแดนฝั่งไทยพร้อมติดต่อขอความช่วยเหลือจากเพจ” ช่วยเหลือคนไทยในปอยเปต”ให้แจ้ง จนท.ไทยมาช่วยเหลือ เมื่อเห็น จนท.ไทยมาช่วยก็ดีใจสุดเหมือนได้เกิดใหม่แล้ว

ทางด้านนายจักรพงษ์ นายอำเภออรัญประเทศ เผยว่าการให้ความช่วยเหลือคนไทยที่หลบหนีมาจากฝั่งปอยเปต ทั้ง9 คน พวกนี้คือเหยื่อของการค้ามนุษย์ซึ่งจะต้องให้ความช่วยเหลือและเยียวยา ส่วนคนไทยที่ยังถูกกักขังอยู่ในกัมพูชา จะได้มีการประสานไปยัง จนท.กัมพูชาให้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และจะได้มีการหารือกับกัมพูชาในการร่วมกันปราบปรามขบวนการเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็ว