ตามที่ ‘กระทรวงสาธารณสุข’ เตรียมออกกฎกระทรวงฉบับใหม่ ให้ผู้ที่ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพเท่ากับเป็นผู้ป่วยต้องไปบำบัด
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.พรรคเพื่อไทย อดีตผู้อำนวยการการปราบปรามยาเสพติด เผยว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขมีแผนจะออกกฎกระทรวงว่า การครอบครองยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด จะถูกนับว่าเป็นผู้เสพและต้องรับการบำบัด ซึ่งมาตรการนี้อาจจะทำให้ปัญหายาเสพติดในประเทศยิ่งรุนแรงขึ้น และจะยิ่งทำให้มีการขายย้าบ้ากันมากขึ้น จนปราบปรามกันไม่หมดสิ้น
“คนที่คิดเรื่องนี้ไม่เข้าใจ ไม่เคยลงพื้นที่ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง สมัยผม เป็นรองนายกรัฐมนตรี และคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐบาลตั้งให้ผม ผู้อำนวยการการปราบปรามยาเสพติด ผมสั่งดำเนินคดีหมดจะไม่ว่าครอบครองกี่เม็ด ส่วนจะแยกผู้ค้าหรือผู้เสพ ขึ้นอยู่กับผลการสืบสวนสอบสวน จะไปกำหนดเท่านั้นที่นี้มันไม่ใช่ มันจะยิ่งทำให้มีการขายย้าบ้ากันมากขึ้น” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญในการแก้ปัญหายาเสพติดคือ ต้องรณรงค์ป้องกันอย่างจริงจังก่อน เมื่อป้องกันแล้ว ก็ต้องปราบปรามและบำบัดรักษา ต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน
“คนที่ลงมาแก้ปัญหายาเสพติด ไม่ใช่ปราบอยู่ที่ทำเนียบ ต้องลงพื้นที่และการที่ยาบ้ามาก แสดงว่าการป้องกันหย่อนยาน ต้องใช้คนมีความรู้ความเข้าใจมาแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นยาบ้าก็ยังเต็มเมือง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ขอบคุณที่มา: มติชนออนไลน์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
‘ชลน่าน’ จ่อออกกฎกระทรวง มียาบ้าไม่ถึง 10 เม็ด ไม่ต้องติดคุกอะไรยังไง? ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศลั่น ตัดขาดสัมพันธ์ ‘ทักษิณ’คลิปอีจันแนะนำ
คืนความยุติธรรม! ให้… น้องหลิว หายเป็นศพ ถูกฆ่า 8 ปี