เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 ทีมข่าวอีจัน เดินทางร่วมกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ เข้าพื้นที่ตรวจสอบการลอบตัดไม้ประดู่ ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติผาแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังได้รับการประสานจาก นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติผาแดง พบกลุ่มชายต้องสงสัยลอบเข้าพื้นที่ป่าช่วงดึกของวันที่ 26 มิ.ย.66
สอบถาม จนท.อุทยานฯผาแดงนายหนึ่ง เล่าว่า วันที่ 26 มิ.ย. 66 จนท.อุทยานฯ เดินลาดตระเวนมาเจอไม้ ที่ถูกตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมวางอยู่ในลักษณะเตรียมชักลากลงมาจากเขา จึงจัดกำลังดักซุ่ม ราวเที่ยงคืนครึ่ง เข้าสู่วันที่ 27 มิ.ย. 66 จนท. เจอดวงไฟ 3 ดวง คาดเป็นกลุ่มลอบตัดไม้ จึงออกจากที่ซุ่มหวังจับกุม แต่กลุ่มคนเหล่านั้นได้วิ่งหนีไป จนท.กลับไปประจำจุดดักซุ่มอีกครั้ง
1 ชม. ผ่านไป มีชายรายหนึ่งถือไฟฉาย เดินเข้ามาหากลุ่ม จนท. ที่กำลังซุ่มอยู่ สอบถามเบื้องต้น ทราบชื่อ นายนิ บอกเพียงว่า เข้ามาเก็บเห็ด
จนท.ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบภาพถ่าย ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายต้น นิ รับ ตนถ่ายรูปต้นไม้ไปให่ชาวม้งกลุ่มหนึ่งดู ว่าขายได้หรือไม้ หากขายได้จะทำการชี้พิกัดต้นไม้ดังกล่าวให้นายทุนเข้ามาลอบตัดต่อไป ซึ่งค่าตอบแทนจะได้หลังจากนายทุนตัดไม้สำเร็จ ค่าตอบแทนมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดความกว้างไม้
นายชัยวัฒน์ จนท.อุทยานฯ และทีมข่าวอีจันลงเดินเท้าขึ้นเขา ไปยังจุดที่ จนท.วางกำลังซุ่มจับคนลอบตัดไม้ ระยะทางไป-กลับ ร่วม 4 กิโลฯ พบต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกตัด 1 ตัด นายชัยวัฒน์สั่งระดมกำลังนำแผ่นไม้ที่ถูกตัดประกอบเข้ากับไปกับไม้ประดู่ต้นหนึ่ง ปรากฏว่า ชิ้นส่วนเข้าล็อคกันพอดี จึงทำการเก็บหลักฐานขยายผลจับกุมกลุ่มคนลอบตัดต่อไป
เบื้องต้น จนท.คาด นายนิ อาจเป็นคนตัดไม้ประดู่ต้นนี้ เนื่องจากเจอนายที่จุดตัดไม้ดังกล่าว แต่นายนิปฏิเสธเสียงเเข็ง บอก ตนเพียงถ่ายรูปส่งตีราคาเท่านั้น ไม้ประดู่ต้นนี้ตนไม่ได้ตัดและไม่ได้ถ่ายรูป ทั้งนี้ตนไม่ได้ทำเป็นอาชีพ เพียงแต่หากตนมาเก็บเห็ด หาของป่าแล้วบังเอิญเจอตันไม้ลักษณะที่ตรงตามความต้องการนายทุนก็จะถ่ายรูปส่งตีราคา
จนท. คุมตัวนายนิชี้ต้นไม้ที่ถ่ายไว้ในโทรศัพท์ นายนิพาชี้จุด นายชัยวัฒน์ตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นต้นเดียวกันกับที่นายนิบอก ซึ่งยังไม่ถูกตัด จึงให้ จนท.อุทยานฯ ทำการเปรียบปรับเบื้องต้นก่อนปล่อยตัว
ทีมข่าวอีจัน สอบถามนายนิ ว่าทราบหรือไม่การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย และหากความผิดสำเร็จต้องรับโทษหนักกว่าการปรับ นายนิบอกไม่ทราบ คิดเพียงว่า ตนแค่ถ่ายภาพไม่ได้เอาต้นไม้ไป และอีกอย่างต้นไม้อยู่ในป่าใครเอาได้ก็เอาไป
จากคำพูดของนายนิ สะท้อนให้เห็นว่า แม้แต่คนที่อยู่กับป่ามาทั้งชีวิต ยังคงคิดเอาเปรียบธรรมชาติเพื่อความอยู่รอดของตน โดยลืมคิดไปว่า หากป่าไร้ต้นไม้ สัตว์ป่าเองก็เดือดร้อนเพราะไร้ที่อยู่ ที่กิน สอดคล้องกับการนำ ม.64 ตาม พ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ. 2562 มาใช้ควบคุม บรรเทาการรุกทำลายป่าจากฝีมือมนุษย์ ให้รู้จักหวงแหน ดูแลผืนป่าดังบ้านตน แม้ขณะนี้ยังไม่มีอนุบัญญัติมารองรับ ม.64 ข้างต้น ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจ ไร้แนวทางจัดการปัญหาที่ชัดเจนระหว่างชาวบ้านและ จนท.อุยานฯ
จนท. อุทยานแห่งชาติ เจอปัญหาหนัก หลังบังคับใช้ พ.ร.บ.อุทยานฯ ฉ.ใหม่แต่ก็ไม่สมควรมีใครหาผลประโยนช์ส่วนตนโดยการเอาเปรียบ ทำลายผลประโยนช์ของผู้อื่น
คน อยู่กับ ป่า
สัตว์ อยู่กับ ป่า
คน…อยู่ได้
สัตว์…อยู่ได้
คลิปอีจันแนะนำ
เหี้ยม พ่อฆ่าลูก (รับเลี้ยง) ยัดถัง