วันนี้ 27 ก.ย. 66 ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สรุเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร ตั้งทีมทนายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือ “ทนายกระดูกเหล็ก” สู้คดีค้นบ้านไม่เป็นธรรม
พล.ต.อ.สรุเชษฐ์ เปิดเผยว่า พี่จบไปเพราะผมที่สำนักงานทนาย ผมได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด คิดว่า บิ๊กโจ๊กถูกรังแก จะเอาสิ่งที่มันคว่ำอยู่หงายมา เพื่อให้ประชาชนทราบว่ามันจริงหรือไม่จริง ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด ตามสไตล์ผม
ที่คิดว่า บิ๊กโจ๊กถูกรังแก ช่วงนี้เป็นช่วงที่กำลังจะแต่งตั้ง ผบ.ตร. ทำไมก่อนหน้านี้ ถึงไม่เกิด แล้วมันเกิดในช่วงนี้พอดี เด็กอนุบาลก็คงจะรู้มั้ง ผมว่าทุกคนรู้ประชาชนรู้ ไม่ใช่ไม่รู้
อยู่ๆคุณไปค้นบ้าน จะไม่รู้เหรอว่าเป็นบ้านของใคร มันไปได้หรอกครับ คุณเป็นตำรวจประสาอะไร ควรจะให้เกียรติกัน เอาชุดคอมมานโดไปจับตำรวจ ไม่ควรกระทำกับท่านแบบนี้ ท่านหนีเหรอ
เรื่องเก่าของบิ๊กโจ๊กผมไม่เกี่ยว แต่เรื่องนี้ผมดูแล้วว่าท่านน่าจะถูกรังแก เพราะฉะนั้นเราต้องทำความจริงให้ปรากฏ
เพราะวันนี้ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ ท่านเป็นบุคคลที่ประชาชนให้ความสนใจทั้งประเทศเพราะฉะนั้นถ้าอึมครึมอยู่แบบนี้ ชื่อเสียงเกียรติยศที่เราสร้างขึ้นมาทั้งหมดจะป่นปี้หมด
ทีมทนายจะดูแล 2 ส่วน
1. คนที่มารังแก บิ๊กโจ๊ก
2. คดีตำรวจ 8 นาย ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของบิ๊กโจ๊ก หากผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่ได้ปกป้องคนผิด
ผมรับทำคดีไม่เคยหนักใจ ผมทำคดีต้องชัวร์ ตั้งวอลูมใครให้สัมภาษณ์ ใครเอาเอกสารมาเปิดเผย ตามไล่เช็กบิลหมด เรื่องนี้ผมบอกบิ๊กโจ๊ก ไม่ต้องพูดแล้วผมพูดเอง
หน้าที่ของทนายความ ก็คือ ทำความจริงให้ปรากฎ ผมอยากจะบอกตรงนี้ว่า ความจริงที่มันเกิดขึ้นบนโลกโซเชียล กับความจริงที่มันเกิดขึ้นอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล มันคนละเรื่องกัน เรื่องในโซเชียลศาลไม่ได้เอามาวินิจฉัย
การที่บิ๊กโจ๊กไปร้องเพลงกับผู้ต้องหา แล้วเขาจะชั่วไปด้วย มันก็ไม่ใช่
จะบอกท่านให้เปลี่ยนชื่อ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” เป็นชื่อ “อัคนี” เพราะแข็งแกร่ง เผาหมดทุกอย่าง
คลิปอีจันแนะนำ
ย้อนคดี พนันออนไลน์ ก่อนเอี่ยว บิ๊กโจ๊ก