รวบคาชุดแม่ชี! ตุ๋นเหยื่อลงทุน เสียหายกว่า 1,3000 ล้าน

สืบนครบาล รวบกรรมการบริษัทฯ คาชุดแม่ชี ตุ๋นเหยื่อลงทุน เสียหายกว่า 1,300 ล้านบาท

4 มิ.ย. 66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กำลังเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม นางพัฒนา อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ”

โดยจับกุมตัวได้ที่ สถานปฏิบัติธรรมนาแห่งหนึ่ง ใน ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

การจับกุม นางพัฒนา สืบเนื่องจาก ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย ว่า ถูกบริษัทแห่งหนึ่ง ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนในการให้บริหารเช่าพื้นที่บน Cloud Storage โดยเสนอผลตอบแทนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่ จนมีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ต่อมาบริษัท ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ และได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย โดยเข้ามาให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2,878 ราย และยังไม่มาให้การอีก จำนวน 653 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท

ในส่วนของคดีทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว 1 ราย คือ นายศุภสรร กรรมการบริษัท และประสาน ปปง. ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหา เพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ซึ่งขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องและหลบหนีโดยไม่สามารถติดตามตัวได้ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวมีหมายจับของ สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) อยู่ระหว่างพิจารณาเสนอต่อศาลเพื่อออกหมายจับ คือ นางพัฒนา แม่ของนายศุภสรร ซึ่งเป็นกรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัทที่ยังหลบหนี

กลุ่มผู้เสียหายจึงได้ร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว จนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาขณะบวชชีอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ใน จ.นครราชสีมา

เบื้องต้น ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลังเกษียณลูกชายได้ขอนำชื่อตนไปเป็นกรรมการในบริษัท โดยที่ตนไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด ขอให้การอื่นๆ ในชั้นสอบสวนและชั้นการพิจารณาคดีของศาล

มีรายงานด้วยว่า ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหา ตำรวจชุดจับกุม พบอดีตสามีของผู้ต้องหาบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าอาจเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการให้ตนเองนั้นรอดพ้นจากการสืบสวนจับกุมตัวตามหมายจับในคดี

สำหรับ นางพัฒนา ตำรวจได้นำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป