พ่อค้ายำ ฉุน ต่อยพ่อค้าส้มตำ ตอนกวาดใบไม้ ล้มทั้งยืนกลางอากาศ

พ่อค้ายำ ฉุน ต่อยพ่อค้าร้านส้มตำ ขณะกวาดใบไม้ ล้มทั้งยืนเพราะเคลียร์ไม่ลงตัว

ใบไม้เป็นเหตุสังเกตได้

พ่อค้ายำฉุน อารมณ์ขึ้นปล่อยมัดใส่พ่อค้าร้านส้มตำ ขณะกวาดใบไม้ล้มทั้งยืน เพราะเคลียร์เรื่องกวาดใบไม้แล้วไม่เก็บ

เหตุเกิดเมื่อวันที่(19 ต.ค.65)ที่ร้านส้มตำแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ในเวลาที่ร้านปิด ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่พ่อค้าร้านส้มตำกำลังกวาดใบไม้และโดนพ่อค้าร้านยำฝั่งตรงข้ามต่อยเข้าที่ใบหน้า ล้มทั้งยืน

วันนี้ (21 ต.ค.65) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ถนนศรีสรรเพชร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่ตั้งร้านส้มตำ โดยได้สอบถามเหตุการณ์กับทั้ง2ฝ่าย

โดยฝั่งพ่อค้าร้านส้มตำชื่อ นายอรรถสิทธิ์ อายุ 48 ปี เล่าว่าเดิมทีตนเองและภรรยาได้มาเปิดเช่าร้านขายส้มตำแห่งนี้ เป็นเวลา 7 ปีแล้ว โดยคู่กรณีที่เข้ามาชกต่อยตนนั้นก็เปิดร้านขายยำอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน แต่ก่อนก็ไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่เมื่อช่วง 1 ปีที่ผ่านมาทางคู่กรณีเคยเข้ามาพูดเรื่องท่อน้ำทิ้ง ว่าตอนล้างจานในอ่างแล้วทิ้งน้ำลงไปทำให้ท่อในซอยตันตนก็ทำการปรับปรุงแก้ไข

จากนั้นมาช่วงหลัง ก็ไม่ค่อยได้พูดคุยกันจนมาเกิดเรื่องเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 19 ตนได้กวาดใบไม้อยู่แล้วพ่อค้าร้านยำก็เดินมา ถามว่าทำไมกวาดใบไม้แล้วทิ้งไว้ตรงนั้น ตนกำลังเดินไปหาที่ตักใบไม้ แต่ตอนนั้นก้มหน้าอยู่ไม่ทันเห็น จึงโดนพ่อค้าร้านยำต่อยแบบไม่ทั้งตั้งตัว ทำให้ล้มจนมีบาดแผลที่หัวและใบหน้า

ล่าสุดได้แจ้งความที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา แล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนบอกให้ตนรอเรียกประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยตนเองและภรรยากลัวว่าเรื่องจะเงียบ

ด้านภรรยาขอเจ้าของร้านส้มตำ นางสาวนารี อายุ 39 ปี เล่าว่า วันเกิดเหตุสามีของตนกวาดใบไม้อยู่ข้างร้าน แล้วถูกคู่กรณีเข้ามาทำร้าย ตนจึงเข้าไปห้าม และหลังจากที่เกิดเรื่อง ตนรู้สึกกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย อยากให้ตำรวจเร่งเรียกตัวคู่กรณีมาสอบเพื่อให้เรื่องจบลง

ทางด้านนายไผ่เจ้าของร้านยำ อายุ 38 ปี เผยว่า ตอนนั้นคู่กรณีออกมากวาดใบไม้ประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ แต่ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหามาแล้ว เคยเตือนเรื่องท่อน้ำทิ้ง และทางร้านเขาก็ปรับปรุงแก้ไข และวันที่เกิดเหตุเมื่อเช้านี้เขาก็กวาดใบไม้มากองไว้ ข้างร้าน ไม่เก็บไปทิ้ง พอลมพัดมาใบไม้ก็พัดปลิว พอช่วงกลางคืนตนเองปิดร้าน ออกไปซื้อของกลับมาก็เห็น คู่กรณีกวาดใบไม้กองอยู่ จึงถามไปว่า จะกวาดกองไว้อย่างนั้นหรอทำไมไม่เอาที่ตักขยะตักไปทิ้ง คู่กรณีก็ตอบประมาณว่า เขาก็กวาดอย่างนี้กองแบบนี้มานานแล้วนะ ตนจึงบอกไปว่าทำไมไม่เก็บเพราะลมมันปลิวใบไม้เข้าไปปลิวโดนรถที่จอดอยู่ข้างร้าน

นายไผ่เล่าอีกว่า คู่กรณีจะกวาดใบไม้กองไว้ตลอด แล้วเขาก็บอกว่าเขาก็กวาดแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปกวาดและเก็บไว้ที่ไหน ตนเองจึงตอบไปว่าทำไมพูดแบบนี้ ประมาณว่า -ึงเป็นใคร-ึง เป็นนักเลงคุมในซอยนี้หรือ ตนเองยอมรับว่าอารมณ์ขึ้นจึงได้ต่อยไป 1 ทีจนคู่กรณีล้มไป ซึ่งเวลาที่มากวาดใบไม่คือ 5 ทุ่มแล้ว มันใช่เวลาที่มากวาดไหมคนเขาจะหลับจะนอนต้องพักผ่อน และเหตุการณืกวาดใบไม้แล้วกองไว้ให้ลมพัดปลิวก็อดทนมา 2 ปีแล้ว

อย่างไรก็ตามตนเองก็อยากจบเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ส่วนเรื่องคดีผมก็ว่ากันไปผลจะเป็นยังไงก็แค่ทำร้ายร่างกายและทะเลาะวิวาทส่วนเรื่องจะมาเรียกร้องค่าเสียหายหรือชดใช้อะไรก็คงจะต้องคุยกับทนายมาว่าความกันต่อไปและขอยืนยันว่าตนเองไม่ใช่นักเลงและเป็นคนทำมาหากิน

อย่างไรก็ตาม คนบ้านใกล้เรือนเคียง ค่อยพูดค่อยจากันดีกว่าอย่าใช้กำลังเลยนะคะ