สานเจตจำนงคุณพ่อ บริจาคดวงตา พร้อมอุทิศร่างกาย เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่

ครอบครัวขอสานเจตจำนงคุณพ่อ ที่เคยพูดไว้เสมอ ถึงเรื่องการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ด้วยการอุทิศร่างกายและการบริจาคอวัยวะ บริจาคดวงตา

ครอบครัวขอสร้างกุศลครั้งใหญ่ สานเจตจำนงคุณพ่อ ในวาระครั้งสุดท้ายของชีวิต

หลายคนคงเคยได้ยินและคุ้นเคยกับคำว่า “ภาวะสมองตาย” คือ แกนสมองถูกทำลายจนสูญเสียการทำงานถาวร ทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว หากอวัยวะสำคัญยังมีสภาพดี สามารถนำไปต่อชีวิตให้กับผู้อื่นได้ หากวันหนึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดของเรา ก็ยากที่จะทำใจได้

แต่ทว่า ผู้ป่วยสมองตาย คือ ความหวังที่มีค่า ที่จะสามารถถ่ายทอดอวัยวะไปยังผู้ป่วยที่รอการบริจาคอย่างมีความหวังอีกหลายชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ไต 2 ข้าง ปอด 2 ข้าง หัวใจ ตับ ตับอ่อน ฯลฯ เปรียบเปรยง่ายๆ คือการมอบชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยเหล่านั้นให้มีชีวิตอยู่ต่อได้ 

คุณสากล ฐานันตรานนท์ อายุ 63 ปี ผู้ป่วยที่แพทย์ให้การวินิจฉัยว่าเป็นผู้ป่วยที่มี “ภาวะสมองตาย” และคุณนิตยา ฐานันตรานนท์ ภรรยา ก็มีความประสงค์ในการจะส่งต่ออวัยวะเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการ ซึ่งนับเป็นทานอันสูงสุด

เมื่อวันที่ 6 พ.ค.66 เวลา 07.40 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งจากญาติว่ามีผู้ป่วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และมองเห็นภาพซ้อน รวมถึงอาการชา จึงมีการนำส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้บ้าน และเมื่อทำการเอ๊กซเรย์คอมพิวเตอร์พบว่า ผู้ป่วยมีภาวะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง และอาการทรุดลงตามลำดับจึงประสานส่งต่อผู้ป่วยมารักษายังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ระหว่างการส่งต่อการรักษา ผู้ป่วยมีภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์จึงได้ทำการ CPR ฟื้นคืนสัญญาณชีพ และที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผู้ป่วยได้รับการตรวจประเมินอย่างละเอียดจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง ลงความเห็นว่าผู้ป่วยมีภาวะสมองตาย ญาติประกอบด้วยภรรยา และลูกชาย คุณพีรวิชญ์  ฐานันตรานนท์ อายุ15 ปี มีความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะของผู้ป่วยให้แก่สภากาชาดไทย

คุณนิตยา ภรรยาและคุณพีรวิชญ์ ลูกชายได้กล่าวว่า คุณสากล มีพี่ชายที่เคยรักษาอาการอักเสบติดเชื้อที่ดวงตา โดยการผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตาจากผู้บริจาคสมองตายเมื่อปี 2558 และคุณสากลยังได้เคยสูญเสียบุตรชายเมื่อปลายปี 2565 และได้มอบร่างของลูกชายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้เสียชีวิตได้พูดกับภรรยาและบุคคลใกล้ชิดอยู่เสมอ ถึงเรื่องการสร้างบุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ด้วยการอุทิศร่างกายและการบริจาคอวัยวะ ภรรยาจึงได้สานต่อเจตจำนงของผู้เสียชีวิตในการทำกุศลทานครั้งยิ่งใหญ่นี้

จนกระทั่ง วันที่ 9 พ.ค. 66 เวลา 05:17 น. ผู้ป่วยได้หมดสัญญาณชีพลง และได้ทำการบริจาคอวัยวะ คือดวงตาให้แก่สภากาชาดไทย สมดังเจตนารมณ์ และอุทิศร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่อีกด้วย

อีจันขออนุโมทนาบุญในจิตที่เป็นกุศล และขอให้คุณสากล ไปสู่ภพภูมิที่เปี่ยมสุขนะคะ

“ความดีไม่สิ้นสุดคือการบริจาคอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ”

ขอบคุณข้อมูล คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับขั้นตอนการบริจาคอวัยวะ

1. กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม บริจาคอวัยวะ จุดประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

2. แอปพลิเคชั่น :ชื่อ บริจาคอวัยวะ สามารถกรอกรายละเอียดได้

แสดงความจำนงเพื่อบริจาคอวัยวะได้ที่

1. กรอกรายละเอียดในแบบฟอร์ม บริจาคอวัยวะ ณ ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ชั้น 8 อาคารสุจิณโณ

ติดต่อสอบถาม : 089-9996000, 0918513391 แสดงความจำนงเพื่อบริจาคอวัยวะได้ที่ ศูนย์รับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ชั้น 8 อาคารสุจิณโณ

ร่วมแสดงความจำนงบริจาคดวงตา หรือแจ้งข้อมูลกรณีมีผู้บริจาคเสียชีวิตที่สำนักงาน ธนาคารดวงตา (CMU EYE BANK) ชั้น 12 อาคารสุจิณโณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5393-6382 (ในเวลาราชการ) มือถือ 08-9999-6000 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นหน่วยงานเครือข่ายของศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย มีธนาคารดวงตาทำหน้าที่จัดหาและบริการดวงตาให้แก่ผู้ป่วยโรคกระจกตาพิการในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน

คลิปอีจันแนะนำ
ไม่รอด! อัยการสั่งฟ้อง ดีเจแมน-ใบเตย คดี Forex 3D