อุทาหรณ์เตือนผู้ปกครอง เกิดเหตุคุณแม่ขับรถยนต์ไปจอดทำธุระนอกรถเพียงไม่กี่นาที แล้วปล่อยเด็กวัยขวบครึ่งทิ้งไว้ในรถ สุดท้ายรถเกิดล็อกอัตโนมัติเด็กติดในรถนานกว่า 20 นาที เด็กเกือบหมดสติเนื่องจากรถไม่ได้ติดเครื่องยนต์ไว้และจอดกลางแดด โชคดีที่กู้ภัยมาช่วยได้ทันเวลาและนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่สอด
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. 66 ตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งมีเหตุเด็กอายุ 1 ขวบครึ่ง ติดอยู่ภายในรถเก๋ง ไม่สามารถออกจากรถได้ เนื่องจากประตูล็อกจากด้านในรถ ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนย่านใจกลางหมู่บ้าน ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุตำรวจ สภ.แม่สอด พร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เขตแม่สอดรีบเดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อทีมเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ไปถึงจุดเกิดเหตุ พบชาวบ้านจำนวนมากต่างมามุงดูเหตุการณ์ พบรถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่ริมถนน โดยไม่ได้ติดเครื่องยนต์รถทิ้งไว้ แต่ภายในรถ พบภาพอันน่าตกใจ เนื่องจากภายในรถคันนี้ มีเด็กชายคนหนึ่ง ทราบภายหลังว่า อายุเพียง 1 ปี 6 เดือน อยู่ในสภาพเหงื่อแตกกระวนกระวาย และมีอาการคล้ายคนอ่อนแรงเกือบจะหมดสติ เนื่องจากติดค้างอยู่ภายในรถแบบไม่ติดเครื่องยนต์นานกว่า 20 นาที
เบื้องต้นชาวบ้านพยายามตะโกนให้เด็กน้อยกดปลดล็อกประตูรถ แต่ก็สื่อสารไม่สำเร็จ และประตูรถล็อกจากด้านใน ท่ามกลางแดดร้อนจัด และเด็กน้อยก็เริ่มมีเหงื่อไหลเต็มตัวมากขึ้น ทีมกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เขตแม่สอด จึงประสานขอช่างกุญแจผู้ชำนาญการมาช่วยปลดล็อก และใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถเปิดประตูรถยนต์ออกได้สำเร็จ
วินาทีที่ประตูรถยนต์เปิดออก หน่วยกู้ชีพก็รีบเข้าไปอุ้มตัวเด็กชายออกจากรถ พร้อมรีบนำตัวขึ้นรถพยาบาล ซึ่งจอดเตรียมพร้อมรับตัวเด็กในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วรีบนำตัวเด็กชายรายนี้ส่งโรงพยาบาลแม่สอดอย่างเร่งด่วน เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียด เบื้องต้นเด็กชายมีอาการอ่อนเพลีย และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นอาการสาหัสแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีหญิงสาวซึ่งคาดว่าเป็นแม่ของเด็กชายรายนี้ ได้ขับรถยนต์มาจอดไว้ริมถนนในจุดเกิดเหตุ จากนั้นคุณแม่เด็กได้ดับเครื่องยนต์ แล้วรีบลงจากรถเพื่อจะไปทำธุระ โดยปล่อยทิ้งเด็กชายไว้ในรถเพียงลำพัง เวลาต่อมาคุณแม่ได้รีบเดินกลับมาที่รถยนต์ ก็ตกใจสุดขีดเนื่องจากประตูรถยนต์ของตนเอง ปิดล็อกจากด้านในรถทุกบาน จนต้องรีบติดต่อไปหาหน่วยกู้ชีพ ให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเด็กติดค้างอยู่ภายในรถยนต์ตลอดเวลาในการช่วยเหลือ นานกว่า 20 นาที เด็กชายเกือบจะหมดสติเนื่องจากอากาศร้อน และอากาศภายในรถก็เริ่มเหลือน้อย ซึ่งโชคดีที่ปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กติดในรถยนต์ครั้งนี้ สามารถช่วยได้สำเร็จและทันเวลา ถึงแม้ว่าเด็กน้อยรายนี้ไม่เป็นอันตรายถึงขั้นสาหัส แต่ก็ต้องนำตัวไปปลอบขวัญ
เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งแล้ว ยังไงก็ระวังกันให้มากขึ้นนะครับ