เมื่อวันที่ 11 ก.ย.65 ที่ผ่านมา กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้ติดตามสถานการณ์ปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง น้ำท่า และปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 37/2565 แจ้งว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนบน
ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางโดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ดังนี้
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลาก น้ำท่วมขัง
– ภาคเหนือ แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน ลำปาง ลำพูน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก และนครสวรรค์
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา
– ภาคกลาง สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำสาย แม่น้ำกก, แม่น้ำวัง, แม่น้ำยม, แม่น้ำน่าน, แม่น้ำแควน้อย, แม่น้ำป่าสัก, แม่น้ำเจ้าพระยา, แม่น้ำเลย, แม่น้ำชี, แม่น้ำมูล, แม่น้ำนครนายก, แม่น้ำปราจีนบุรี, แม่น้ำบางปะกง, แม่น้ำระยอง, แม่น้ำจันทบุรี, และแม่น้ำตราด
รวมไปถึงจังหวัดที่เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่และอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่มีปริมาตรน้ำสูงกว่าเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำกักเก็บสูงสุด (Upper Rule Curve) อีก 10 แห่ง
– อ่างเก็บน้ำแม่งัดสมบูรณ์ชล จังหวัดเชียงใหม่
– อ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมาและแม่มอก จังหวัดลำปาง
– บึงบอระเพ็ด จังหวัดนครสวรรค์
– อ่างเก็บน้ำทับเสลา จังหวัดอุทัยธานี
– อ่างเก็บน้ำอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น
– อ่างเก็บน้ำลำตะคองและมูลบน จังหวัดนครราชสีมา
– อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี
– และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง
ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) จึงได้แจ้งให้ 23 จังหวัด ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า
รวมไปถึงติดตาม ตรวจสอบ ซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำบริเวณริมแม่น้ำ และเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำพร้อมวางแผนการบริหารจัดการน้ำ และจัดการจราจรทางน้ำให้เหมาะสม พร้อมทั้งให้จัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัย และชุดปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น หากได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง