เงื่อนไขเปิดผับถึงตี 4 จำกัด สถานบริการขอรัฐบาล ปรับเกณฑ์ใหม่

สถานบริการขอรัฐบาลปรับหลักเกณฑ์เปิด-ปิดผับถึงตี 4 ใหม่ หลังมีข้อจำกัดเกินไป ช่วยเหลือแค่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น พร้อมวอนพิจารณาปรับเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

จากการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักในการออกข้อกำหนด ขยายเวลาเปิด-ปิดผับถึงตี 4 เพื่อช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว  

ต่อมาได้มีการนำร่างกฎกระทรวงกำหนดเวลาเปิด-ปิดสถานบริการเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 28 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ก่อนที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย จะลงนามในร่างกฎกระทรวง พร้อมเริ่มต้นในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการเปิด-ปิด ผับถึงตี 4 นั้น ไม่ได้กำหนดใช้ทั้งประเทศ หรือทุกสถานบริการ แต่จะเริ่มใช้ใน 5 จังหวัด กับบางพื้นที่ก่อน และเฉพาะสถานบริการที่เข้าเกณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ มาตรา 3 (1-5)  เท่านั้น ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ใน กรุงเทพมหานคร, จ.ภูเก็ต, จ.ชลบุรี, จ.เชียงใหม่ และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงสถานบันเทิงที่ตั้งอยู่ในโรงแรมตามกฎหมาย ก็สามารถเปิดให้บริการจนถึงเวลาตี 4 ได้เช่นกัน 

สำหรับสถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่จะเปิดให้บริการถึงตี 4 จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ร.บ.สถานบริการ 2546 และพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 โดยเข้มงวดในมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลดังต่อไปนี้ 

1.บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ 

2.บุคคลที่มีอาการมึนเมาสุราจนครองสติไม่ได้ 

นอกจากนี้ สถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่จะเปิดให้บริการจนถึงตี 4 จะต้องมีมาตรการอื่นๆ ดังนี้ 

– มีจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ทางลมหายใจ ก่อนขับขี่ยานพาหนะออกจากสถานบริการนั้นๆ 

– หากตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วพบว่า มีระดับเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้สถานบริการจัดหาที่พักคอย เพื่อรอให้ปริมาณแอลกอฮอล์ลดต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงจะอนุญาตให้ขับยานพาหนะออกไปได้ 

– กรณีที่ผู้ใช้บริการมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และไม่ยอมพักคอย ให้สถานบริการประสานเพื่อน/ญาติ ของผู้ใช้บริการมารับแทน 

– ให้สถานบริการจัดยานพาหนะเพื่อให้บริการ โดยคิดค่าบริการจากผู้ใช้บริการ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลพร้อมประเมินผลกระทบจากการขยายเวลาเปิดสถานบริการดังกล่าว 

ทั้งนี้ ก็ได้มีเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบธุรกิจสถานบริการ โดย นายธนากร คุปตจิตต์ อดีตนายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เผยว่า มาตรการดังกล่าวมีสถานบริการจำนวนมากที่ไม่เข้าเกณฑ์ ซึ่งสถานบริการที่มีใบอนุญาตนั้นมีเพียง 5% ส่วนสถานประกอบการคล้ายสถานบริการที่ไม่มีใบอนุญาตนั้นมีมากถึง 95% และต้องปิดเวลา 24.00 น. ตามเดิม จึงอยากขอให้รัฐขยายเวลาปิดถึงตี 2 หรือถ้าไม่อย่างนั้นอยากให้เร่งดำเนินการออกใบอนุญาต พร้อมลดการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ 

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่ามาตรการปิดผับถึงตี 4 นี้เป็นการช่วยเหลือกลุ่มน้อยมากกว่า ส่วนเรื่องโซนนิ่งหรือพื้นที่ก็ควรมีการปรับเปลี่ยนเพราะใช้มาแล้วกว่า 20 ปี จึงควรปรับได้แล้ว ซึ่งหลายพื้นที่ทำไม่ได้ และควรทบทวนการกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 

คลิปอีจันแนะนำ
ปาฏิหาริย์ ขอขมากรรม วินัย ไกรบุตร EP.2