หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ พระสายกรรมฐาน ที่ได้เดินธุดงค์ โดยเริ่มออกเดินธุดงค์จากภาคใต้ เริ่มต้นที่ จ.สงขลา เพื่อจะไปสิ้นสุดที่ จ.นครพนม บ้านเกิด ระยะทาง 3,415 กิโลเมตร ผ่านเส้นทาง 24 จังหวัด ซึ่งหลังจากขณะเดินธุดงค์ถึงบ้านห้วยผึ้ง อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ได้มีอาการอาพาธเจ็บหลัง เนื่องจากการแบกของหนัก และลุกผิดท่า จึงต้องงดเดินธุดงค์ชั่วคราว และทำการรักษากับแพทย์ ที่สำนักสงฆ์บ้านห้วยผึ้ง อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.66 ที่ผ่านมา
ต่อมาได้เดินทางเข้าเขตจังหวัดเลย ตามเส้นทางจาก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เข้าอำเภอนาแห้ว อำเภอด่านซ้าย และอำเภอท่าลี่ จังหวัดเลย หลวงต่อบุญชื่นได้เดินจาริกธุดงค์ ถึง อ.ท่าลี่ จ.เลย ตามเส้นทางเลียบแม่น้ำเหือง ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นชายแดนประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ระหว่างทางจะมีลูกศิษย์คอยเดินตามตลอดทาง และมีญาติโยมที่ทราบว่าหลวงตาจะเดินผ่านมา จึงได้พากันแห่มานั่งรอริมทางตลอดสาย พร้อมกับนำน้ำดื่ม เสื้อผ้าที่สวมใส่ มาวางไว้ให้หลวงตาเหยียบเพื่อความเป็นสิริมงคล
นอกจากนี้มีหน่วยแพทย์ของ รพ.ท่าลี่ได้จัดรถพยาบาลพร้อมเจ้าหน้าที่ตามดูแลตลอดเส้นทาง ติดตามขบวนการธุดงค์อย่างใกล้ชิด และพบว่า หลวงตาบุญชื่น มีอาการซีดเหลือง ทางคณะแพทย์โรงพยาบาลท่าลี่ จึงได้ตรวจ พบว่าค่าความเข้มข้นของโลหิตอยู่ในระดับ 26% มีอาการอ่อนเพลีย ซึ่งจากปกติมาตรฐานเพศชาย ต้องมีระดับความเข้มข้นในเลือด 36 – 40 % จึงขอนิมนต์เพื่อทำการรักษา เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ทำการรักษา แต่ยังพบว่าอาการอาพาธค่าความเข้มข้นของโลหิตอยู่ในระดับจาก 26.6 ขึ้นมาเป็น 27.9 % ทางคณะแพทย์ที่ให้การรักษายังลงความเห็นให้หลวงตาบุญชื่นรักษาอาพาธ นอนโรงพยาบาลอีก 1 วัน หากตรวจผลเลือดออกมาดีแล้ว จะให้หลวงตาชื่นออกธุดงค์ต่อ โดยหลวงตาบุญชื่น ได้กำหนดเส้นทางถนนสายเลย-ท่าลี่ เพื่อมุ่งหน้าไปพื้นที่อำเภอเชียงคาน อำเภอปากชม แล้วเข้าในพื้นที่อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานีต่อไป