จากกรณี ผู้ปกครอง ร้องโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดบุรีรัมย์ หลังลูกถูก ผอ.โรงเรียนยึดมือถือแล้วไม่คืน ต่อมาทั้งเด็กนักเรียนทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลาย ของโรงเรียนดังกล่าว ได้รวมตัวกันออกมาแฉพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน
โดยให้ข้อมูลว่า ผอ.คนนี้ ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไปทั้งเรื่องทรงผม ห้ามเอาโทรศัพท์ไปโรงเรียน ทั้งที่ครูบางวิชาก็อนุญาตเพราะจะต้องใช้ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงชอบยึดของเด็กนักเรียนแล้วไม่ยอมคืนให้ ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนที่ออกมาพูดอยากให้ย้าย ผอ. คนดังกล่าวออกจากโรงเรียน เพราะมองว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
แฉอีก! ผอ.โรงเรียนดังบุรีรัมย์ ชอบยึดของนักเรียนไม่ยอมคืน?ล่าสุดเมื่อวานนี้ (18 ก.ย. 65) เวลาประมาณ 15.00 น. ผอ. คนดังกล่าว ย่องเงียบเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาจะลักขโมยเอามือถือของเด็กไปเป็นการยึดไว้เท่านั้น แต่จากพยานหลักฐานที่ปรากฎทั้งพิกัด จีพีเอส. และที่ ผอ.เป็นคนนำมือมาส่งให้ตำรวจเองนั้น ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ แต่ไม่ได้ควบคุมตัวเนื่องจากเป็นการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนยังได้เรียกเด็กนักเรียนผู้เสียหาย พร้อมผู้ปกครองมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมทั้งให้เด็กชี้ยืนยันว่ามือถือที่มีการนำมาส่งให้ร้อยเวรฯ เป็นของตนจริง จากนั้นก็จะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำเด็กผู้เสียหายตามขั้นตอนอีกครั้ง เนื่องจากยังเป็นเยาวชน จากนั้นก็จะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบสำนวนคดีตามกระบวนการต่อไป
ทางแม่ก็ยังคาใจว่าหาก ผอ.ไม่ได้เจตนาจะเอามือถือของลูกไปจริงทำไม่ไม่แจ้งให้คนอื่นทราบ หรือเอามาคืนแต่แรก นี่ปล่อยผ่านไปถึง 3 วันจนมีการแจ้งความและพยายามใช้แอปค้นหา ถึงได้รู้
ส่วนที่ ผอ.ไปที่บ้านเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ที่ผ่านมาก็พยายามจะไปขอเคลียร์และขอโทษ โดยอ้างว่าไม่ได้เจตนาจะมือถือของลูกชายไป แต่ตนก็บอกว่าเรื่องมันถึงตำรวจแล้วก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน
ขณะที่แม่ของนักเรียนผู้เสียหาย บอกว่าตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจ กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวลูกจะถูกกลั่นแกล้งที่แจ้งความเอาผิด ผอ. และมองว่าการกระทำของ ผอ. ก็ไม่สมควรที่จะเป็นแบบอย่างให้กับเด็ก เป็นถึงผู้บริหารแต่กลับทำแบบนี้ จึงอยากให้ทางต้นสังกัดได้พิจารณาสั่งย้าย ผอ. เพื่อความเป็นธรรม