รวบ “มายด์ วรัญรภัสส์” เน็ตไอดอล หลอกลงทุนทองคำเสียหาย 200 ล้าน

ตร.รวบ “มายด์ วรัญรภัสส์” เน็ตไอดอล ร่วมขบวนการหลอกลงทุนทองคำเสียหาย 200 ล้าน

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. /หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 /รอง หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 พ.ต.ท.นรามินทร์ เทพจักรินทร์ ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5

จับกุม น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2694/2565 ลงวันที่ 2 ธ.ค.65 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” จับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง บนถนนประชาราษฎร์ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ.2561 น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงประชาชน โดยการตระเวนโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ FACEBOOK ชักชวนประชาชนทั่วไป มาร่วมลงทุนซื้อขายทองคำแท่ง โดยมีการกล่าวอ้างว่ามีทองคำแท่งที่ราคาต่ำกว่าราคาตลาด แล้วมีการขายเอากำไรเป็นทอดๆ ซึ่งช่วงแรกได้กำไรจากเงินส่วนต่างจริง หลังจากนั้นเมื่อเหล่าผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ ใช้อุบายหลอกลวงเพื่อให้ผู้เสียหายระดมเงินมาลงทุนก้อนใหญ่

จากนั้นก็ไม่ได้รับทองคำหรือกำไรตามที่แจ้ง ซึ่งคดีนี้มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายทั่วประเทศ ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไว้หลายแห่ง ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท โดยในปัจจุบัน น.ส.วรัญรภัสส์ (สงวนนามสกุล) หรือมายด์ ได้กลายมาเป็น “เน็ตไอดอลชื่อดัง” มีผู้ติดตามกว่า 200,000 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ

ในชั้นจับกุม น.ส.วรัญรภัสส์ หรือมายด์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ยอมรับว่าปัจจุบันตนเองทำงานเป็นโมเดลลิ่ง และเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล โดยในตอนเกิดเหตุช่วงปี 2561 นั้นตนเองก็เป็นผู้เสียหายเช่นเดียวกัน โดยตนเองมีหน้าที่ชักชวนให้เหล่าผู้เสียหายมาลงทุน และยังมีหน้าที่รับเงินจากเหล่าผู้เสียหายก่อนจะโอนไปให้กับ “หัวหน้าขบวนการ” โดยตนเองจะหักกำไรไว้บางส่วน จึงทำให้ตนเองถูกดำเนินคดี โดยตลอด 4 ปี ที่ผ่านมามีการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและขึ้นศาลหลายแห่ง ส่วนหัวหน้าขบวนการนั้นได้ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการชดใช้เงินให้กับเหล่าผู้เสียหายยอมติดคุก”

ทั้งนี้ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.6 บก.ป. แล้วจะมีการสอบสวนขยายผลต่อไป