ทนายอนันต์ชัย – ป๋าเสรี ยื่นฟ้อง 10 ก.ตร.และจ่อฟ้อง 112 กับนายก

อนันต์ชัย เปิดตัวบิ๊กเซอร์ไพรส์ ป๋าเสรีพิศุทธ์ พร้อมยื่นฟ้อง 10 คณะกรรมการ ก.ตร.ปมแต่งตั้งบิ๊กต่อ และเตรียมฟ้อง 112 กับนายก ผู้ที่เป็นคนทูลเกล้า แต่งตั้ง ผบ.ตร. โดยมองว่า มันมีความไม่ชอบธรรม

เสรีพิสุทธิ์-อนันตชัยฟ้อง 112 นายกกับพวก  

เสรีพิศุทธ์ ควง อนันตชัย ยื่น ป.ป.ช.เอาผิด นายกฯ-ก.ตร. ปมตั้ง “ต่อศักดิ์” มิชอบ  ยันทำเพื่อรักษาองค์กรตำรวจ ไม่ได้ป้องใคร  เสนอแก้ กม.ริบปืน พร้อมเผย 15 ต.ค.”พลอย-เมนู” เตรียมแฉเส้นทางการเงิน “บุ้ง ทะลุวัง” ด้านอนันตชัย เล็งยื่น ม.112 เอาผิดคนแต่งตั้ง ผบ.ตร. 

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์   เตมียเวส   อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วยนายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความ  ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ร้องทุกข์กล่าวโทษ นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจหรือ ก.ตร. และกรรมการ ก.ตร  9 คน  ที่มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล  เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือผบ.ตร. ในฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และมาตรา 91

โดย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 258 ง.(4)มีหลักการให้การแต่งตั้งต้องคำนึงถึงความอาวุโส และความรู้ความสามารถประกอบกัน แต่นายกรัฐมนตรี กลับเสนอชื่อพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ซึ่งเป็นรอง ผบ. ตร.ที่มีอาวุโสเป็นลำดับที่ 4 ให้ที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา และ กรรมการ ก.ตร.ทั้ง 9 ก็ให้ความเห็นชอบ  จึงเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  ตนเป็นอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงทนไม่ได้ต้องมาร้องต่อ ป.ป.ช. ซึ่งอยากให้ทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว 

หากพบว่าเป็นการกระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงหรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ  ป.ป.ช. จะต้องส่งให้ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้ดำเนินการต่อไปและถ้าผิดก็ต้องมีการตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี   “ก่อนหน้านี้เคยเตือนคุณเศรษฐาไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ฟัง แล้วผมจะมีไมตรีทำไม  เพราะคุณเป็นคนทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณเป็นคนเสนอ ถึงคุณงดออกเสียง แค่คุณเสนอก็ผิดแล้ว เพราะเป็นต้นเหตุ ถ้าไม่เสนอคนอื่นจะลงมติได้อย่างไร ” พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าว

ต่อมา พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยืนยัน ว่าการออกมายื่นฟ้องต่อป.ป.ช.เป็นการทำเพื่อองค์กรตำรวจ ไม่ได้ทำเพื่อใคร  เพราะพลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ. ตร.ที่อาวุโสอันดับ 1 ก็เงียบไม่ต่อสู้เพื่อตัวเอง ไม่รู้จะเป็นทำไมรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไม่มีความกล้าหาญเลย ถ้าตนเป็นรอง ผบ. ตร. เบอร์ 1 ตนฟ้องแล้ว 

ซึ่งพลตำรวจเอกรอย ควรไปร้องต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และถ้าตนเป็น ผบ. ตร.จะตั้ง พลตำรวจเอกรอย ให้เป็น ผบ. ตร.คนต่อไป เพราะทำแบบนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเงียบสงบ ไม่มีปัญหา แต่ที่ผ่านมามีการเมืองมาแทรก  นายกฯก็เข้ามายุ่งทั้งที่ไม่ควร  จึงทำให้องค์กรตำรวจเกิดปัญหา

โดยพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกเพิ่มว่า ยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ก็ไม่เกี่ยวกับพรรคเพราะตนลาออกจากการเป็น สส.แล้ว และคงไม่ทำให้พรรคซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอึดอัด แม้ตนจะยังเป็นหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แต่ความเป็นพรรคมีอิสระในการดำเนินการ  

และพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีนายอนันตชัย ถูกบุคคลในรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้พูดว่าเพราะนายอนันตชัยไม่ใช่พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ ใครก็มาสั่งตนไม่ได้ คนในรัฐบาลไม่ควรทำแบบนี้ ทำเหมือนไม่รู้ว่าสิ่งนี้ผิดกฎหมาย

เมื่อถามว่ากรณีแบบนี้เข้าข่ายใช้ตำแหน่งหน้าที่แทรกแซงทางคดีหรือไม่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่าต้องดูว่าถ้าเป็น สส.ก็มีความผิด ซึ่งนายอนันตชัยไม่ใช่ข้าราชการประจำ ความจริงสามารถพูดคุยขอร้องก็ได้แล้ว แต่ถ้าใช้การข่มขู่ก็เป็นความผิดตามกฎหมาย

ด้านนายอนันตชัยระบุว่าหลังจากนี้แล้วตนจะไปดำเนินการในเรื่องของการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยฟ้องจะข้อหา ม.112 กับผู้แต่งตั้ง เนื่องจากมีการเสนอแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธิ์   ยังกล่าวถึงกรณีการแก้ปัญหา เยาวชนอายุ 14 ปีใช้อาวุธปืนกราดยิง โดยเสนอว่าควรมีการแก้ไขกฎหมายให้มีการเก็บอาวุธปืน ภายในเวลา 6 เดือน  โดยเสนอนายชาดา  ไทยเศรษฐ์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว ว่าให้เรียกเก็บอาวุธให้หมดถ้าใครถือครองโดยถูกกฎหมายก็ให้คืนเงิน 

ถ้าครอบครองผิดกฎหมายก็ให้ดำเนินคดี  แต่ถ้าไม่คืนแล้วเจ้าหน้าที่ไปตรวจพบอาวุธก่อน ให้จำคุกตลอดชีวิต ถ้านำอาวุธไปก่อเหตุ ให้โดนโทษประหารชีวิต และตนเห็นด้วยที่จะให้แก้กฎหมายลดอายุ ผู้กระทำผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เพราะประเทศจีนก็ลดอายุอายุผู้กระทำผิดเหลือ 12 ปีแล้ว ขณะใช้สิทธิ์เลือกตั้งเรายังแก้ไขกฎหมายให้คนอายุ 18 ปี ที่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้เลย ดังนั้นเหตุใดจึงจะแก้คนที่ควรจะได้รับโทษเหลืออายุ 12 ปีไม่ได้

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มทะลุวังพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กล่าวว่าในวันที่ 15 ต.ค.นี้ “พลอย-เมนู” ซึ่งเป็นคนที่ถูก “บุ้ง  ทะลุวัง” ให้โอนเงินเข้าบัญชีนั้น  จะโทรมาคุยและส่งหลักฐานว่าถูกหลอกให้โอนเงินอย่างไร และบุ้งเปิดบัญชีที่ไหน และมีการรับเงินจากที่ไหนบ้าง ซึ่งตนได้ให้คำแนะนำว่าให้เชิญพนักงานสอบสวนมาร่วมรับฟังด้วยเพื่อให้ข้อมูลนั้นถูกกฎหมายและใช้เป็นพยานหลักฐาน  

ทั้งนี้ เมื่อถามว่าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์จะเดินทางไปร่วมรับฟังด้วยหรือไม่ พลตำรวจเอกพิสุทธิ์กล่าวว่าตนไม่ต้องไปเพราะใช้หลักการบริหารจัดการเหมือนการบริหารประเทศชาติ เป็น ผบ.ไม่ต้องลงมาดูที่เกิดเหตุ แค่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็พอแล้ว