ตำรวจรวบแม่เล้าวัย 19 ใช้ทวิตเตอร์ลักลอบค้ากามเด็กสาว

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่เล้าวัย 19 ปี ลักลอบค้าประเวณีเด็กสาวทางทวิตเตอร์

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 66 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ได้จับกุม น.ส.นภัสวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ในข้อหา กระทำความผิดฐาน

“ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก อายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี แม้เด็กจะยินยอมก็ตาม,กระทำโดยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี, จัดให้มีการค้าประเวณีระหว่างผู้ซึ่งค้าประเวณีกับผู้ใช้บริการ,บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจาร ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด,พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์เต็มใจด้วย”

หลังตำรวจพบผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ โพสต์โฆษณาเชิญชวนค้าประเวณีในจังหวัดพิจิตร จึงวางแผนติดต่อขอซื้อบริการกับผู้ต้องหาที่ส่งภาพหญิงสาวมาให้เลือก

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี และจากการสืบสวนทราบว่าผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์คนดังกล่าวคือ น.ส.นภัสวรรณ

จากนั้นตำรวจได้ทำการอำพรางซื้อประเวณีกับเด็กสาวจำนวน 1 คน ในราคา 1,200 บาท โดยนัดหมายกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย น.ส.นภัสวรรณ ก็มาพร้อมกับ น.ส.เอ อายุ 17 ปี (นามสมมติ) จากนั้น น.ส.นภัสววรณ รับเงินค่าตัวเด็กจำนวน 1,200 บาท ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม และช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร พาไปคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านสองแคว จังหวัดพิษณุโลก

สอบสวน น.ส.นภัสวรรณ ให้การรับสารภาพว่า ได้สร้างบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวมาเพื่อการค้าประเวณี โดยตนเองเป็นแอดมิน คอยชักชวนลูกค้ามาซื้อประเวณีหญิงสาว โดยตนจะได้ส่วนแบ่งครั้งละ 200 บาท ตำรวจจึงได้นำตัว น.ส.นภัสวรรณ ส่ง พงส.กก.4 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป