คดีน้องชมพู่ ล่าสุด ทนายตั้ม ลั่น! ยิ่งเข้ากกกอกยาก ยิ่งอยากเข้า

คดีน้องชมพู่ ล่าสุด ลุงพล ดีใจที่ ทนายตั้ม มาดูแลคดี ด้านทนายตั้ม เผยยิ่งเข้ากกกอกยาก ยิ่งอยากเข้า

26 ม.ค. 2564 ที่ จ.สกลนคร นายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเตรียมตัวเดินทางกลับ จ.สมุทรสาคร หลังจากที่ลงมาเพื่อให้คำปรึกษา คดีน้องชมพู่ กับลุงพล โดยทนายตั้ม เผยว่า เมื่อช่วงเช้าได้ประสานตำรวจ สภ.กกตูม จ.มุกดาหาร เพื่อให้ ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และให้ทีมงานที่ไม่ได้อยู่ จ.สมุทรสาคร ไปดูแล ลุงพล ขณะเข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ซึ่ง ลุงพล จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมด 2 คดี โดยคดีแรก คือ คดีครอบครองไม้หวงห้าม ซึ่งคดีนี้ ลุงพลจะให้การภาคเสธ เนื่องจากว่า ลุงพล ไม่ได้มีเจตนาเอามา และไม่รู้ว่าเป็นไม้หวงห้าม

ส่วนอีกหนึ่งคดี เป็นคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายนักข่าวช่องหนึ่ง และพยายามชิงทรัพย์ ซึ่งคดีนี้ ทนายตั้ม ระบุว่า มีหลายข้อหา ในส่วนข้อหาทำร้ายร่างกาย ลุงพลก็ยอมรับสารภาพ เพราะทำจริง แต่ข้อหาพยายามชิงทรัพย์ ก็จะปฏิเสธ เพราะลุงพลไม่ได้อยากจะเอาไมค์ไปครอบครองตั้งแต่แรก คดีนี้จึงจะรับสภาพความบางข้อหาเท่านั้น

ส่วนก่อนหน้านี้ที่ตน เคยบอกไว้ว่า ถ้าช่วยลุงพล จะช่วยดูแลเรื่อง คดีน้องชมพู่ เท่านั้น แต่วันนี้ตัดสินใจช่วยดูแลคดีอื่นๆ ด้วย เพราะเป็นเรื่องเฉพาะหน้า ไหนๆ ก็เดินทางมาพบลุงพลแล้ว จึงต้องช่วยก่อน โดยให้ทีมงานเข้าไปดูแลแล้ว ส่วน คดีน้องชมพู่ ก็ยังเป็นข้อกำหนด กติกาเดิม ขอให้ได้เข้าพื้นที่ก่อน จึงจะตัดสินใจรับ หรือ ไม่รับ ทำคดี

“ตอนนี้ที่ยังไม่ตัดสินใจ เพราะปัญหาที่ทุกคนรู้กันดี คือ เข้าพื้นที่ไม่ได้ ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับพยาน แต่ถ้ายิ่งเข้าพื้นที่ยาก ก็ยิ่งอยากเข้า ตั้งแต่ตัดสินใจที่จะมาดูคดีนี้ ยอมรับว่า หนักใจกับคดีนี้มาก แต่ทำให้รู้สึกท้าทาย ว่าคดีนี้มันมีอะไรกันแน่ การบังคับใช้กฎหมาย ตนเข้าใจ แต่ใช้เท่าเทียมกับทุกคนหรือไม่” ทนายตั้ม กล่าว

ส่วนกระแสสังคม ที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ลุงพล ร้อนตัวหรือไม่ แม้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา แต่ก็เตรียมทนายไว้แล้ว ประเด็นนี้ ทนายตั้ม เผยว่า ตลกมาก หากดูจากหลายๆ คดี เขายังไม่ตกเป็นผู้ต้องหา หรือ เป็นจำเลย เขาก็มีทนายความกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ต้องหาก่อน ถึงจะมีทนายส่วนตัว

ส่วนการสอบปากคำ ตนมองว่าต้องสอบทั้งเอาผิดและพิสูจความบริสุทธิ์ด้วยไม่ใช่เพื่อสอบเพื่อดำเนินคดีเพียงอย่างเดียว ยืนยันว่าถ้าคลายล็อกเมื่อไหร่ จะเดินทางมาที่บ้านกกกอกทันที

สำหรับคดีรุกป่าที่ทาง นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

ได้ไปร้องกับทาง บก.ปทส. เรื่องนี้ ลุงพล ได้ให้ทนายรัชพล ศิริสาคร เป็นคนดูแล แต่การร้องเจาะจงเพียงคนใดคนหนึ่งนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งถ้าจะไปร้องก็ควรร้องทุกคน ไม่ใช่มาเจาะจงว่าต้องเป็นลุงพล แบบนี้มันเหมือนกลั่นแกล้ง เพราะประเด็นหลักของลุงพลคือเรื่องของน้องชมพู่ อย่ามาเล่นใต้เข็มขัดแบบนี้

ด้าน ลุงพล กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนดีใจที่ทนายตั้มมาดูแล แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงเรื่องที่ทนายตั้มยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ เท่านั้นเอง