โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 45 ที่กำลังจะหมดวาระ กล่าวปราศรัยอำลาตำแหน่ง ในคลิปวิดีโอที่มีการบันทึกไว้ล่วงหน้าและได้รับการเผยแพร่ช่วงบ่ายวันอังคาร ที่ผ่านมา (19 มกราคม 2564) พร้อมระบุถึงความสำเร็จตลอดช่วง 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง รู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งในความสำเร็จทั้งหมดที่เราร่วมกันสร้าง และขอให้ชาวอเมริกันอวยพรให้นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนต่อไป ประสบความสำเร็จ
โดยทรัมป์ กล่าวถึงความสำเร็จหลายประการที่เกิดขึ้น อาทิ การลงนามกฎหมายลดภาษีเมื่อปี 2560 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตขึ้นภายใต้การบริหารของเขา แต่เข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และการยอมรับให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นการกระทำที่สั่นคลอนเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง การที่สหรัฐฯ ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มประเทศอาหรับ รวมถึงการที่สหรัฐฯ สามารถจัดการผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงการระบาดใหญ่ได้ดีกว่าหลายประเทศ แม้จะมีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโรคนี้แล้วกว่า 400,000 ราย
นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวอวยพรโดยที่ไม่ได้ระบุถึงตัวไบเดนโดยตรง ซึ่งบ่งชี้ว่า เขายังไม่เคยยอมรับว่าตนพ่ายแพ้ ให้กับไบเดนในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดี
เมื่อกล่าวถึงการจลาจลที่อาคารรัฐสภา ซึ่งทำให้สภาผู้แทนราษฎรถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง ทรัมป์ระบุว่า ชาวอเมริกันทุกคนต่างรู้สึกตกใจ และหวาดกลัวกับการโจมตีอาคารรัฐสภาอย่างยิ่ง การใช้ความรุนแรงทางการเมืองเป็นการทำลายทุกสิ่งอย่างที่ชาวอเมริกันยึดมั่นมาโดยตลอด มันเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้
ขณะเดียวกันไบเดนขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เพื่อร่วมพิธีเข้ารับตำแหน่งที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ในวันนี้ (20 มกราคม 2564) ซึ่งทรัมป์ตัดสินใจไม่เข้าร่วม โดยทรัมป์จะเดินทางไปยังคฤหาสน์มาร์-อา-ลาโกในรัฐฟลอริดาก่อนที่พิธีการจะเริ่มต้นขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรก ที่ถูก ยื่นถอดถอน ติดกันถึง 2 ครั้งโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ป้องกันเหตุจราจล โจ ไบเดน รับตำแหน่งเลือกตั้งสหรัฐ 2020 ศึกชิง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ VS โจ ไบเดน