เปิดประวัติ บิ๊กโจก พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.

เปิดประวัติ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล บิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วย ผบ.ตร บทพิสูจน์บนเส้นทางที่ไม่ธรรมดา กับสมญา แมวเก้าชีวิต ของจริงตัวจริง

ล่าสุดจากกรณี ครุูแดนนี่ ครูสอนศิลปะการต่อสู้ หลังถูกเพื่อนลวงข้ามประเทศจับตัวเรียกค่าไถ่ 24 ล้าน โดยอ้างจะพาไปหาทุนมาทำหนัง แต่กลับถูก กลุ่มกองกำลังว้าแดง จับตัวไป ใส่โซ่ผูกตรวน ใช้งานเยี่ยงทาส แม่จึงได้เข้ายื่นหนังสือร้องถึง บิ๊กโจ๊ก ให้ช่วยเหลือลูกชาย บิ๊กโจ๊กเผยถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือครูเเดนนี่ ว่า เเม่ของครูเเดนนี่โทรหาทุกเช้าเลย เราเป็นตำรวจ เราจะต้องดูเเลประชาชน เรื่องครูเเดนก็น่าจะใกล้เเล้ว เพราะกองกำลังว้า เตรียมที่จะส่งครูเเดนนี่กับทางรัฐบาลเมียนมาร์เเล้ว ถ้าส่งให้กับรัฐบาลเมียนมาร์ก็น่าจะปลอดภัย

บิ๊กโจ๊ก ?
พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ชื่อเล่น โจ๊ก

เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ที่จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายดาบตำรวจ ไสว และนางสุมิตรา หักพาล สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา (สกุลเดิม พานิชพงษ์)

สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ และโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 ระดับชั้นปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47 เป็นหัวหน้านักเรียนของนรต.รุ่น47 ระดับปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม จากมหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และระดับ ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ปัจจุบันกำลังศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ภาคค่ำ (นอกเวลาราชการ) นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ยังจบหลักสูตร และ รับมอบประกาศเกียรติบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 21 (ปปร.21) จาก พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ผู้แทนพระองค์

ชีวิตราชการตำรวจ

ร.ต.ต. สุรเชษฐ์ ในขณะนั้น เริ่มรับราชการตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 จนได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขั้นเป็นสารวัตรในกองวินัย ต่อมาเป็นสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 5 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 3 จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 จนได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2546และเป็นผู้ช่วยนายเวรตำรวจราชสำนักประจำให้กับ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547

ระดับผู้กำกับการ

หลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพันตำรวจเอก พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้น ได้รับตำแหน่งผู้กำกับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่อำนวยการประจำผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ] จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 จึงได้เป็นผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ได้เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 10 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ถูกส่งไปเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จนได้เลื่อนขึ้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาและทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาส่วนหน้า รับผิดชอบพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่เป็น ‘พื้นที่สีแดง’ เสี่ยงต่อภัยความไม่สงบบริเวณชายแดนภาคใต้

ระดับผู้บังคับการและผู้บัญชาการ

ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจตรี ในตำแหน่งผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่ประสานงานกับนายกรัฐมนตรี รายงานต่อ พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น หลังจากนั้นทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 จนในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยวจนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษจนกระทั่งวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560 เข้ามาทำหน้าที่รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560จนวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจโท และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ถูกย้ายพ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ 9 เมษายน 2563 ที่ออกนอกเส้นทางสีกากี ไปนั่งเก้าอี้ ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมนตรี (นักบริหารระดับสูง) ล่าสุดมีความชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ายกลับ ส่งพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ คืนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รู้จัก “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) เคยเป็นหัวหอกคณะทำงานศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.)

อีกทั้งเคยเป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อนถูกย้ายฟ้าผ่าเข้ากรุ ศปก.ตร.และย้ายพ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลาต่อมาหลังเจอมรสุมชีวิตถูกย้ายไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเกือบ 2 ปีก่อนกลับเข้ารั้ว “กรมปทุมวัน” มาสวมเครื่องแบบ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” อีกครั้ง โดยโดนคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้ขาดจากอำนาจในกรม มาสังกัดใหม่ เป็น “ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” เพราะถืออยู่ใน “บัญชี” เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 2/2562 ประกอบคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2558

หลังถูกย้ายในช่วง 2 ปี เกิดเรื่องราวมากมาย ทั้งโดนมือมืดลอบยิงรถซึ่งขณะนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ คดียังอึมครึมและเป็นปริศนา หลังจากนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ออกมาขย่มเปิดโปงหน่วยงานเก่า ออกมาให้ข่าวความไม่ชอบมาพากลการจัดซื้อจัดจ้าง ก่อนนายกรัฐมนตรีออกคำสั่งเบรกพฤติกรรมไม่เหมาะ จากนั้น “บิ๊กโจ๊ก” ได้ลาบวชที่อินเดีย ไม่นานก็มีกระะแสข่าวบิ๊กโจ๊กกลับมาใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทว่าเรื่องก็เงียบ ก่อนมีข่าวฟ้องนายกรัฐมนตรีกล่าวหาย้ายพ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยมิชอบ มีกระแสข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกมาสักระยะ “บิ๊กโจ๊ก” ได้กลับคืนสู่สายอาชีพ จนกระทั่งชัดเจนในวันนี้ 9 มี.ค.64

จนกระทั่งวาระประจำปี 2564 บิ๊กโจ๊กได้ขยับจากตำแหน่งที่ปรึกษา สบ9 มาอยู่ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. และได้สร้างผลงานโดดเด่นมากมาย

26 ต.ค. 64 นำชุดสืบ ศพดส.ตร. ร่วมกับ ศรภ. จับกุมเครือข่ายลักลอบแรงงานโรฮีนจาเข้าประเทศ

29 ต.ค. 64 ประสานสถานทูตช่วยคนไทยถูกแก๊งค์คลอเซ็นเตอร์หลอกลวงทำงานผิดกฎหมายที่ประเทศกัมพูชา พร้อมทั้งเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

4 พ.ย. 64 นำทีม พฐ. ตรวจเกาะเทวดาที่อ้างใช้เป็นที่รวบรวมรังนกจากถ้ำต่างๆ ที่โดนขโมยก่อนส่งขึ้นฝั่ง

7 พ.ย. 64 ลงพื้นที่ติดตามคดีลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จนเกิดเหตุพลิกคว่ำจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และนำแรงงานต่างด้าวไปทิ้งใน จ.กำแพงเพชร

9 พ.ย. 64 ปราบปรามหนี้นอกระบบเมืองเลย

ฉายาไม่ธรรมดา

” โจ๊ก หวานเจี๊ยบ ”

ด้วยบุคลิกกับผู้คนรอบกาย กลายเป็นที่มาของฉายาหวานเจี๊ยบ พร้อมคำอธิบายคำพูดติดปากเชิงว่า “ครับพี่ครับ ครับ ครับ ครับพี่ ครับ ครับพี่” ที่เป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว โดยบิ๊กโจ๊กยังเคยได้เผยถึงฉายาว่า “น่าจะได้มาเพราะผมมีบุคลิกเป็นคนพูดจาเพราะจนได้รับฉายาดังกล่าว ซึ่งก็น่ารักดีครับ ไม่เสียหายอะไร เพราะเมื่อเป็นบุคคลสาธารณะการตั้งฉายาจึงเป็นเรื่องปกติ รับได้ทุกอย่างครับ”

“แมว 9 ชีวิด หรือ โจ๊ก 9 ชีวิต”

เพราะด้วยมรสุมใหญ่ต่างๆ ที่ต่างถาโถม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปลดจากตำแหน่งแบบฟ้าผ่า หรือจะเป็นเหตุการณ์ที่ลอบยิงแล้วรอดมาได้ และเรื่องราวต่างๆ ที่ต้องพิสูจน์อีกมากมาย แล้วยังหวนกลับคืนสู่วงการราชการกับแนวโน้มที่จะดีขึ้นๆ ได้อย่างภาคภูมิ

ทั้งนี้เส้นทางชีวิตสายกากีของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล กำลังเป็นช่วงหวนคืน กลับมาโลดแลนได้อย่างสวยงาม อีกครั้งซึ่งได้พิสูจน์ด้วยผลงานที่โดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายนี้กับคดีอุ้มตัวเรียค่าไถ ครูแดนนี่ ที่อยู่ในมือของ รองโจ๊ก จะเป็นอย่างไรต้องติดตามและเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายและรวมถึงครูแดนนี้ได้รับความเป็นธรรมและปลอดภัยในที่สุด ส่วนกระบวนการต่าง

คลิปแนะนำอีจัน
ครูสู้ชีวิตมาก เต็มสิบ ไม่หัก!