ผู้ว่ากรุงเทพฯ บัญชาการแผนกู้ร่าง 4 ชีวิต ติดใต้ซากอาคาร 3 ชั้นถล่ม : หมู่บ้านกฤษฎานคร 31

พล.ต.อ.อัศวิน ผู้ว่ากรุงเทพฯ บัญชาการแผนกู้ร่าง 4 ชีวิต ติดใต้ซากอาคาร 3 ชั้นถล่ม : หมู่บ้านกฤษฎานคร 31

ในเหตุเพลิงไหม้ อาคาร 3 ชั้น ภายในหมู่บ้านกฤษฎานคร 31 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร จนอาคาร 3 ชั้นพังถล่มลงมา ซึ่งขณะนั้นทีมอาสาดับเพลิง จำนวน 9 คน ยังคงอยู่ภายในอาคาร เป็นเหตุให้ถูกซากอาคารทับ จนได้รับบาดเจ็บ 5 คน และ เสียชีวิต 4 ราย ขณะเดียวกัน ก็พบผู้อาศัยอาคารที่เกิดเหตุ เสียชีวิต 1 ราย

ซึ่งผู้เสียชีวิต 3 รายร่างยังคงติดค้างอยู่ภายในซากอาคาร

ซึ่งการกู้ร่างผู้เสียชีวิต และเคลียร์พื้นที่ ต้องทำงานด้วยความละเอียด เนื่องจาก ภายในอาคาร ยังคงอันตรายอย่างมาก

จึงมีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุอาคารถล่มขึ้น โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้บัญชาการณ์เหตุการณ์

โดยมีการประชุม ขั้นตอนการทำงาน อย่างละเอียด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต เนื่องจาก มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้ความร่วมมือช่วยเหลือ

อีจัน ได้คุยกับ พี่เกริกเสกษ์สัณห์ วาสะศิริ ผอ.ส่วนพัฒนาศักยภาพฯ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

พี่เกริกเสกษ์สัณห์ เล่าให้เราฟังถึงแผนการกูร่างผู้เสียชีวิตที่ติดค้างอยู่ภายใน ซึ่งตอนนี้ได้รับการยืนยันที่แน่ชัดแล้วว่า มีผู้ติดค้างอยู่ 4 ราย

แผนขั้นแรก คือการ คลี่รายชื่อผู้เสียชีวิต มีกี่คน และมีใครบ้าง และให้สัญลักษณ์แต่ละคน ตามภาพนี้

เมื่อทราบผู้ติดค้าง ขั้นต่อมาคือการ หาจุดที่ผู้เสียชีวิตติดค้างภายในอาคาร โดยวางแผนที่อาคาร เป็น 4 ส่วน

ซึ่งตรวจสอบแล้ว ผู้เสียชีวิต อยู่บริเวณส่วน A 3 ราย ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหน้าฝั่งซ้ายของอาคาร หากเราหันหน้าเข้าอาคาร

และ ผู้เสียชีวิต อีก 1 ราย ติดค้างอยู่โซนด้านหลัง ส่วนกลางอาคาร ซึ่งเป็นบริเวณที่ อาคารหักลงมา ซึ่งผู้เสียชีวิต รหัส L-1 และ D-1 คือจุดที่นำร่างออกมายากที่สุด

โดยแผนการกู้ร่างทั้ง 4 ราย ออกจากพื้นที่ คือ

1.เจาะปูนเพื่อให้เห็นร่างผู้เสียชีวิต

2.ทำการค้ำยันโครงสร้างอาคาร เพื่อเสริมความแข็งแรงของตัวอาคารระหว่างการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต

3. กู้ร่างผู้เสียชีวิตโดยใช้ ASR5 คือการใช้เครื่องจักรเข้าทำงานในพื้นที่

โดยเครื่องจักรดังกล่าวนั้น คือ รถแบคโฮ รถเครน และ เครื่องคีบ ใช้ในการเคลียร์พื้นที่ เอาแผ่นปูนที่ทับถมกันอยู่จนไม่สามารถเข้ากู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ ออกให้หมด

ซึ่งขั้นตอนนี้ ต้องไม่มีคนอยู่ในพื้นที่ นั้นเป็นเหตุให้ มีการตรวจหาสัญญาณชีพภายในอาคารหลายครั้ง เพื่อยืนยันอย่างแน่ชัดว่า ไม่มีสัญญาณชีพอยู่ในอาคาร เนื่องจากการใช้เครื่องจักรค่อนข้างอันตราย อาจทำให้ ซากอาคารเคลื่อน และพังลงมาได้

ซึ่งขณะนี้ เวลา 23.00 น. เป็นการดำเนินการตามแผนขั้นที่ 3 แล้ว หากเสร็จสิ้นในขั้นตอนนี้ก็จะสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้