รองหัวหน้ากำลังพล ธน.27-00 สุดกลั้น สูญเสีย 3 วีรบุรุษ เหมือนสูญเสียคนในครอบครัว

รองหัวหน้ากำลังพล ธน.27-00 เปิดใจกับอีจัน 3 วีรบุรุษดับเพลิง เหมือนคนในครอบครัว บีบหัวใจที่วันนี้ต้องจากลา…

เหตุเพลิงไหม้ อาคารถล่ม ภายใน หมู่บ้าน กฤษดานคร 31 ย่านพุทธมณทล สาย 3 ถนนบรมราชชนนี เขตทวีวัฒนา เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ 4 ราย และผู้พักอาศัย 1 ราย เหตุเกิดช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 เม.ย. 2564

ความสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ความสูญเสียที่บุคคลอันเป็นที่รักต้องจากไปอย่างกะทันหัน ยากจะทำใจ…

นายศักรินทร์ บุญเครือพันธุ์ หนือ พี่แบงค์ รองหัวหน้ากำลังพล หน่วยนครธน ธน.27-00 บอกกับจันว่า

ทั้ง 3 คนที่จากไป เหมือนเราสูญเสียคนในครอบครัว เพราะเราอยู่กันเหมือนเครือญาต ทิดชล (พีสมัญญา) ก็เหมือนพี่ชาย ส่วนโอ (นายสุทัศน์) เรียกตนว่าอา ส่วนป๊อบ (นายอรรถพล) เรียกตนว่าพ่อ มันเป็นการสูญเสียที่เจ็บที่สุดเลย เจ็บที่สุดในชีวิตที่เป็นอาสาสมัคร

“จริงเหรอ ใช่เหรอ เราหลับไปแล้วตื่นมามันเป็นฝันหรือเปล่า น้ำตาที่ไหลเมื่อวานแม้กระทั่งตอนนี้มันตกใน เราช่วยคนอื่นมาเยอะแต่เราต้องเอาหลาน เอาพี่ ออกมาจากจุดเกิดเหตุตรงนั้น มันเจ็บที่สุด 26 ชั่วโมง”

พี่แบงค์ บอกกับจันด้วยน้ำตาที่คลออยู่เต็มเบ้าว่า ช่วงเวลาที่เรารอทั้ง 3 ชีวิตที่อยู่ด้านในมันยิ่งกว่าบีบหัวใจ… เราเห็นกับตาเขาทรมาน ซากอาคารที่ทับร่างเขาอยู่มันเกินคำบรรยายมันบีบหัวใจมาก

ในมุมของคนที่ร่วมงานกับ 3 วีรบุรุษ พี่แบงค์ เล่าให้ฟังว่า

“ทิดชล เป็นคนสอนพี่ดับไฟ เพราะเวลาไประงับเหตุพี่ก็ไปกับ ทิดชน ไปรถดับเพลิงของเขาขนาดเล็ก ไปตลอดไปทุกงาน จนเรามีรถของเราเอง อยู่กับเขามาเกือบ 20 ปี ทิดชล เป็นคนที่ใจเย็นคุยได้กับทุกคน มีคำเดียวที่ชอบพูดว่าไม่เป็นไร เราทำงานของเราไป

น้องโอก็ 10 กว่าปี ที่เราช่วยกันมา ดับไฟที่ไหนเราไปด้วยกัน ถึงไหนถึงกัน และเจ็บที่สุดคือ ลูกเขาเพิ่งได้หนึ่งเดือน มันบีบที่สุดตรงนี้แหละ

ส่วนป๊อบเราสอนเขามากับมือ จนเขาดับไฟได้”

ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ก็คือช่วยเหลือประชาชน ระงับเหตุให้เร็วที่สุด เราไม่ทำงานแข่งกับใคร แต่เราทำงานแข่งกับเวลา และเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง