อัจฉริยะ ยื่นหลักฐาน คดีแตงโม และร้อง ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ!

อัจฉริยะ ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมกรณีการเสียชีวิตของ แตงโมนิดา หรือ แตงโม พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ท พร้อมยื่นหนังสือร้องต่อ ดีเอสไอ รับ คดีแตงโม เป็นคดีพิเศษ

วันนี้ (18 พ.ค. 65) เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เพื่อร้องขอให้ดีเอสไอ รับคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เป็นคดีพิเศษ พร้อมนำพยานหลักฐานสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดี 20 ชุดมามอบเพื่อประกอบการพิจารณา ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

โดย นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้ (18 พ.ค. 65) ดีเอสไอ ( DSI) นัดสอบปากคำ ตนจึงนำพยานหลักฐานสำคัญ 20 ชุด หนึ่งในนั้นมีภาพจากกล้องวงจรปิดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งปรากฏภาพว่ามีเรือสปีดโบ๊ท 2 ลำไปที่ ท่าทรายริมแม่น้ำหลังเกิดเหตุ

จากหลักฐานชิ้นนี้ นายอัจฉริยะ ได้บอกว่า กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ อดีตผู้จัดการของแตงโม และนางภนิดา แม่แตงโม ก็เคยพูดว่า มีเรือ 2 ลำ ตนจึงเชื่อว่าเรืออีกลำที่คล้ายรุ่นเดียวกันกับลำก่อเหตุนั้นยังอยู่ และตำรวจก็รู้ แต่แกล้งไม่เห็น

คาด คราบเลือด ร่องรอยดีเอ็นเอของแตงโม อาจจะอยู่ที่เรืออีกลำก็ได้ แต่ตนไม่มีอำนาจตรวจสอบว่ามีเรือรุ่นนี้อยู่ในประเทศไทยกี่ลำ

นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานแสดงอีกว่า แผลขาขวาบนศพแตงโม เกิดจากของมีคมไม่ใช่ใบพัดเรือ และมีทรายในมือข้างเดียว ในลักษณะคล้ายกับทรายบนท่าทรายดังกล่าว และ โคลนในปอดแตงโม ที่ทำให้เชื่อว่า ศพไม่ได้อยู่ที่จุดตกตามที่แถลงข่าวไป เพราะที่นั่นมีแต่ทราย ไม่มีโคลน

และผู้เชี่ยวชาญเคยออกมาชี้แจงว่า การที่โคลนอยู่ในปอด แสดงว่าไม่ได้เสียชีวิตในน้ำลึก แต่จุดพบศพเป็นน้ำลึก ซึ่งมีพยานชี้ชัดว่าจุดตกอยู่คนละฝั่ง

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า ไม่แน่ใจว่าตำรวจได้สอบปากคำเพื่อน หรือญาติแตงโม เรื่องยารักษาโรคซึมเศร้า หรือยานอนหลับที่พบในร่างกายแตงโมว่าเป็นชนิดเดียวกันกับที่พบในคนบนเรือหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้อาจเป็นเหตุจูงใจในการ ฆาตกรรม ด้วยการใส่ยา โดยไม่ได้เตรียมการมาก่อน จึงต้องอำพรางคดีหรือไม่ เพราะเชื่อว่า นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน ที่อยู่บนเรือด้วยจะต้องให้การเท็จแน่นอน เพราะเจ้าของ อู่เรือเอ็นบีซี ระบุว่าได้รับแจ้งข้อความช่วยเหลือจากคนบนเรือประมาณ 22.20 น. แต่ในการแถลงข่าวกลับเป็นเวลา 22.34 น.

นายอัจฉริยะ ยังคงกล่าวต่อไปว่า สำหรับพยานในคดีนี้มีผู้เชี่ยวชาญ 12 ปากที่มีใบรับรองในสาขาต่างๆ เช่น นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ พญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ที่ตรวจสอบเรื่องบาดแผล แต๊ง พงศกร มหาเปารยะ นักแสดงชายที่ยืนยันว่าแตงโมเป็นคนขี้กลัว จะไปปัสสาวะท้ายเรือไม่ได้แน่นอน ส่วนอะตอม สัมพันธภาพ เพื่อนดาราสาวก็รู้ว่าคนบนเรือนิสัยเป็นอย่างไร และยังมีประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำที่เก็บทรายและถ่ายภาพใต้น้ำไว้ได้ และผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ที่ระบุว่า ถ้าแตงโมตกท้ายเรือ จะถูกดีดออกไม่ได้ถูกดูดเข้าใต้ท้องเรือ รวมถึง ไทด์ เอกพัน บรรลือฤทธิ์ ที่ไปร่วมเก็บร่างแตงโมและมีภาพศพประกอบด้วย

ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกดีเอสไอ เผยว่า เบื้องต้นจะสอบปากคำนายอัจฉริยะไว้ และจะนำพยานหลักฐานไปประกอบกับข้อมูลที่คณะสืบสวนของดีเอสไอได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ ส่วนกรณีที่นางรสนา โตสิตระกูล เคยมายื่นเรื่องร้องเรียนกับเราไว้ ก็จะนำมารวมเป็นสำนวนเดียวกัน โดยจะให้คณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนเสนอให้ คณะกรรมการของดีเอสไอ พิจารณาว่าจะรับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ทั้งนี้ พ.ต.ต.วรณัน ได้กล่าวอีกว่า หลังมีการสืบสวนคดีดังกล่าว ดีเอสไอจะแยกประเด็นการสืบสวนสอบสวนออกจากของตำรวจ ส่วนข้อมูลที่ได้จะตรงกันหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ ขอยืนยันว่าดีเอสไอกำลังดำเนินการ แต่จะทันการประชุมของคณะกรรมการในช่วง 2-3 เดือนที่จะถึงนี้หรือไม่ ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจรับว่าจะรับ คดีแตงโม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ อธิบดีดีเอสไอ เว้นแต่เกรงใจตำรวจ ถ้าตรงไปตรงมาต้องรับแน่นอน และคดีจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ แต่จะไม่เกี่ยวกับคดีที่ จ.นนทบุรี

ทั้งนี้ หากระหว่างที่กำลังสืบสวนอยู่แล้วอัยการตัดสินใจส่งฟ้องคดีดังกล่าวขึ้นไปยังชั้นศาล ดีเอสไอก็จะพิจารณาข้อกฎหมายอีกครั้งว่าจะสามารถรับเป็นคดีพิเศษ หรือเข้าไปสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมได้หรือไม่

หลักฐานเพิ่มเติมที่นายอัจฉริยะนำมายื่น พร้อมหนังสือร้องต่อดีเอสไอ ให้รับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ จะมีผลอย่างไร ติดตามความคืบหน้าได้ที่อีจัน