เหตุไฟไหม้สุดสลด (3 เมษายน 2564) ที่หมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ไทม์ไลน์เริ่มตั้งแต่ 06.00 น. ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถนนบรมราชชนนี แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตำรวจจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรุงเทพมหานคร และอาสาสมัคร มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
06.20 น. มีได้รับผู้บาดเจ็บ และติดค้างภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภายในอาคารอยู่ระหว่างเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือ
06.34 น. การใช้น้ำเข้าควบคุมเพลิงเป็นผล เจ้าหน้าที่สามารถระงับเพลิงได้บางส่วน แต่ยังคงมีแสงเพลิงภายในอาคารเล็กน้อย ขณะที่การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว 3 ราย และยังคงมีผู้ติดค้างภายในบ้านอีก 1 ราย
06.49 น. ตรวจสอบพบมีผู้พักอาศัยจำนวน 8 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 7 ราย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการภายในอาคารอยู่ระหว่างค้นหาผู้ติดค้างภายในบ้านอีก 1 ราย
06.52 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้
08.00 น. ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังระดมหัวฉีด ฉีดน้ำอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงปูนดังลั่นตลอดเวลา จนกระทั่งอาคารทั้งหลังได้ทรุดตัวลงมาทันที จากรายงานเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตึกเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เร่งกู้ร่างออกมาได้ 1 ราย ขณะที่อีกอีก 3 รายกำลังพยายามหาแนวทางกู้ร่างออกมาจากซากตึก
10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เร่งค้นหาผู้บาดเจ็บ
12.00 น. มีผู้ที่ติดอยู่ภายในอีกรายหนึ่ง โทรศัพท์ออกมาบอกตำแหน่งของตนที่ติดอยู่ภายในซากอาคาร
15.20 น. ช่วงเวลาแห่งการภาวนาให้มีปาฏิหาริย์ เจ้าหน้าที่ค้นหาสัญญาณชีพผู้ติดค้างภายในซากอาคาร
โดยขอความร่วมมือให้ทุกคนงดใช้เสียง ห้ามขยับตัว และลุ้นต่อเนื่อง
15.33 น. มีรายงานผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งหมด และผู้เสียชีวิต 4 ราย แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย 3 ราย ได้แก่ นายธนภพ ประไพ อายุ 44 ปี นายสมัชญา นิลธง อายุ 48 ปี นายอรรถพล ถ้วมทอง อายุ 26 ปี และผู้อยู่อาศัย 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือหนักเข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตและผู้ยังคงติดอยู่ข้างในได้ เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างส่วนที่เหลือจะเสียหายและถล่มทับลงมาอีก จึงได้ใช้เครื่องมือขุดเจาะบริเวณด้านข้างแทน
16.00 น. มีการตรวจหาสัญญาณชีพจรอยู่เรื่อยๆ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเจอหรือไม่เจอ
16.30 น. รายงานอย่างเป็นทางการ “ไม่พบผู้รอดชีวิตเพิ่ม”
9 ชั่วโมงกว่าแห่งความหวัง ไร้ปาฏิหาริย์ใต้ซากตึก ขั้นตอนต่อไป คือการกู้ร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ออกจากซากอาคาร 3 ชั้น
22.00 น. เป็นเวลา 14 ชั่วโมง หลังอาคารถล่ม เป็นเหตุให้อาสาสมัครดับเพลิง เเละผู้อาศัย ติดอยู่ในซากอาคาร 3 ชั้น โดยรถเเบคโฮ เเละ รถเครนเร่งเคลื่อนย้ายแผ่นปูน เเละซากอาคารชั้นบนออก เพื่อเปิดทางไปสู่การกู้ร่างผู้ติดค้างบริเวณชั้น 1 ออกจากที่เกิดเหตุ
22.30 น. นายอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คุมทีม – ประชุมทีม เพื่อหาแนวทางกู้ร่างทั้ง 3 วีรบุรุษดับเพลิง และ 1 ผู้เสียชีวิต ออกจากซากตึก
ขณะที่รถคีบมาถึงที่เกิดเหตุ และกำลังคีบแผ่นปูนออก หลังจากขั้นตอนนี้จะนำร่างของผู้เสียชีวิตมาวางเรียงกัน ก่อนนำส่งโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่
01.00 น. (4 เม.ย. 64) เจ้าหน้าที่สามารถทำการกู้ร่างอาสาดับเพลิงที่ถูกตึกถล่มทับรายที่เหลือได้ 1 ราย คือ นายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด รหัสธน.27-32 หน่วยนครธน เร่งกู้อีก 3 ร่างที่เหลือ
03.10 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของพี่โอ หรือ อาสาสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด รหัส ธน.27-32 หน่วยนครธน ไปชันสูตรพลิกศพที่ รพ.ศิริราชฯ ก่อนจะส่งมอบให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
06.00 น. รายงานพบร่างผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่สามารถลำเลียงออกมาจากซากตึกได้ ต้องรอนำเศษซากของบ้านที่ทับร่างออกให้หมดก่อน ซึ่งต้องใช้ความมัดระวังสูงมาก ภารกิจจึงค่อยเป็นค่อยไป
ในที่สุด 06.30 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่สามารถกู้ร่างอีก 3 ผู้เสียชีวิตที่เหลือได้แล้ว คือ นายสมัญญา นิลธง รหัส ธน 27-30 นายอรรถพล ท้วมทอง รหัส ธน27-85 และ เจ้าของบ้านอีก 1 ราย ขณะลำเลียงร่างมายังเต้นท์อำนวยการ เหล่าญาติของ 2 อาสาก็มายืนรอรับลูกหลานบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าสลด เพื่อที่จะได้เห็นพวกเขาเป็นครั้งสุดท้าย…
เป็นวินาทีที่บีบหัวใจมากๆ ค่ะ 25 ชั่วโมง กับภารกิจกู้ร่าง 3 ผู้เสียชีวิตติดใต้ซากตึกถล่ม สิ้นสุดภารกิจบีบหัวใจ…
อีจันขอแสดงความเสียใจกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ด้วยนะคะ
