แม่น้องฟลุ๊ค ขอความเป็นธรรม ปมตำรวจสกัดรถลูกชายล้ม ดับคาที่

เสียลูกแล้ว ไม่ยอมเสียความยุติธรรม! แม่น้องฟลุ๊ค ขอความเป็นธรรม ปมตำรวจสกัดรถลูกชายล้ม ดับคาที่ โซเชียลเดือด ฟลุ๊คต้องไม่ตายฟรี

คนเป็นพ่อเป็นแม่หัวใจแทบสลาย เมื่อลูกชายอันเป็นที่รักต้องมาเสียชีวิตกะทันหัน แต่ไร้คนรับผิดชอบ

เรื่องนี้เกิดขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 เพจเฟซบุ๊ก Legend Thailand โพสต์ภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า ช่วยผมแชร์เพื่อเรียกความยุติธรรมให้กับเด็กคนนี้ทีครับ คุณแม่น้องเล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา น้องฟลุ๊คกับเพื่อนกำลังจะกลับเข้าบ้าน หลังไปซ้อมฟุตบอลเสร็จ ระหว่างทางจะเข้าบ้านเจอตำรวจใหม่ที่เพิ่งย้ายมา สน.หนึ่งครับ สกัดจะจับ ไม่ทราบว่าทำไม ด้วยความตกใจเด็กก็ขับรถจะเข้าบ้านด้วยความเร็วพอประมาณ ตำรวจนายนี้ สกัดรถไม่เป็นครับ ไม่รู้ว่าทำไงรถจักรยานยนต์ของน้องล้มได้ บาดเจ็บ 2 ส่วนน้องเสียชีวิตคาที่

หลังจากเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไป โซเชียลให้ความสนใจกับการเสียชีวิตของน้องฟลุ๊คเป็นจำนวนมาก ว่าเรื่องนี้เกิดจากอุบัติเหตุความประมาทของน้องหรือเพราะใคร? โซเชียลจึงถกประเด็นดังกล่าวขึ้น พร้อมกับติดแฮชแท็กว่า #ฟลุ๊คต้องไม่ตายฟรี ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ต่อมาเพจ คาร์ลิสโต้ไลฟ์ ฟุตซอล – Khalis To Live Futsal ออกมาโพสต์ไทม์ไลน์ ของเรื่องราวทั้งหมดดังนี้

ฟลุ๊ค ด.ช.ณัฐดนัย พุทธขาว อายุ 14 ปี จากโรงเรียน สุรศักดิ์มนตรี ส่วนใหญ่แล้วน้องจะเดินสายแข่งบอล ที่จังหวัด นนทบุรี โซนบางใหญ่ บ่อยมากๆ และเล่นให้กับทีม หมูปิ้ง

ในวันเกิดเหตุในช่วงหัวค่ำ วันที่ 24 พ.ค.2564 น้องฟลุ๊คได้ขี่จักรยานยนต์ไปเล่นบอลฟุตซอลกับเพื่อนๆ แถวดินแดงจนถึงเวลาประมาน 3 ทุ่มกว่าๆ หลังจากน้องฟลุ๊ค เตะบอลเสร็จจะเดินทางไปหาเพื่อน ชื่อโฮจุน ตอนนั้นโฮจุน อยู่บ้านเพื่อนแถวห้วยขวาง กำลังนั่งเล่นเกมกับเพื่อนๆ จนถึงเวลาตี 2 กว่าๆ เพื่อนๆกำลังแยกกันกลับบ้าน

ต่อมาเมื่อเด็กๆแยกย้ายกลับบ้านเพื่อนๆ ซ้อนรถกันมา 3 คน ซึ่งมี โฮจุน เป็นคนขับ,ป้อง คนนั่งกลาง, ฟลุ๊ค นั่งปิดท้าย และเป็นเจ้าของรถ

ปกติแล้วถ้าฟลุ๊คไปกับเพื่อนๆจะไม่ค่อยขับรถ ส่วนใหญ่แล้วจะให้เพื่อนขับ ขณะที่กำลังขับรถออกมา จากบ้านเพื่อน ป้องขอติดรถไปด้วยเพื่อที่จะกลับบ้าน แถวซอย ลือชา แฟลตดินแดงเพราะเป็นทางผ่าน ในขณะที่ขับรถออกมา น้องเห็นตำรวจอยู่หน้าแยกโรงน้ำ แต่ก็ขับมาเรื่อยๆปกติ โดยที่ไม่คิดอะไร แต่สุดท้ายตอนที่ขับรถสวนเลนส์ถนนกัน ตำรวจสายตรวจก็ขับรถมอเตร์ไซค์ยูเทิร์นตามมา

ขณะที่ตำรวจขับรถตามมาตำรวจได้เปิดไฟฉายกระพริบๆ ส่องไปที่หน้าคนขับรถ แล้วบอกให้จอด ด้วยความตกใจ ฟลุ๊คบอกให้ โฮจุน คนขับรถ บิดคันเร่งไปเลย ตอนนั้นโฮจุน ตกใจกับเหตุการณ์ ที่ค่อนข้างจะกระชั้นชิด ก็เลยบิดคันเร่งด้วยความตก ในขณะที่ น้องทั้ง 3 บิดรถไปที่ถนนวิภาวดี ขับมาเรื่อยๆ รถตำรวจขับรถมาทางขวาประกบ เพื่อให้รถของน้องฟลุ๊ค เข้ามาชิดซ้าย จังหวะที่ถูกเบียดกันมา รถของน้องจะก็จะชนกับฟุตบาทอยู่แล้ว สุดท้ายทำให้ ช่วงแฮนด์รถตำรวจ มาเกี่ยว รถของน้องทั้ง 3 เลยทำให้เสียหลักไถลไปกับถนน หนักที่สุดคือ น้องฟลุ๊ค เสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ ช่วงหน้าอกของน้อง ฟลุ๊ค น่าจะไปเกี่ยวกับราวเหล็กขอบถนน มีแผลฉกรรจ์ใหญ่พอสมควร

ล่าสุดวานนี้ 30 พ.ค. 2564 พล.ต.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งการให้ ผบก.น.1 และ ผกก.สน.ดินแดง รายงานข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว และชี้แจงว่าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วได้ความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นาย ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณถนนมิตรไมตรี แล้วพบชาย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามกันมา ไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งสามคนและเป็นเวลากลางดึก มาตามถนนมิตรไมตรีมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต จึงได้เข้าไปเรียกให้หยุดและส่งสัญญาณ ด้วยไฟฉายให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตาม และเร่งเครื่องยนต์ขับรถออกมาถึงปากทางแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิภาวดีรังสิต แล้วขับขี่รถด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ขับตามมาทางด้านขวาและสั่งให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่รถคู่กรณีไม่ยอมหยุด แล้วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์คู่กรณีคันดังกล่าวได้เบี่ยงออกขวาจนเบียดรถสายตรวจ และได้เกี่ยวกันล้มลงบนถนนทั้ง 2 คัน ทั้งฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและเรียกรถพยาบาลมารับ แล้วต่อมาทราบว่า 1 ในผู้ซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์เสียชีวิตขณะรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี และเมื่อทำการตรวจค้นรถในที่เกิดเหตุแล้วพบสิ่งของผิดกฎหมายบริเวณใต้เบาะที่นั่งของรถจักรยานยนต์คู่กรณีคันดังกล่าว

จากภาพข่าวและสื่อโซเชียลที่มีการพูดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผ่ายถีบรถของฝั่งผู้ตายทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นนั้น ผบช.น. ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ถีบรถของคู่กรณีแต่อย่างใด โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิปในขณะเกิดเหตุชัดเจน และได้รับแจ้งจาก ผกก.สน.ดินแดง ว่าจะได้เชิญตัวญาติผู้เสียชีวิต มาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในโอกาสนี้ด้วย

ซึ่งเหตุการณ์นี้ทางครอบครัวก็ยอมรับว่า น้องๆไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อก และไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็ยอมรับว่าผิด แต่ด้วยวัย อายุ 13-14 น้องก็ตกใจแน่นอน

เเละหลังจากน้องเสียชีวิต น้องฟลุ๊ค มีชื่อสักอยู่ที่กลางหลัง ของน้องไว้อย่างชัดเจน แต่ถูกแจ้งว่า เป็นศพไร้ญาติ เลยกลายเป็นประเด็นใหญ่ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทางครอบครัว ไม่ได้รับความเป็นธรรม

ซึ่งในวันพรุ่งนี้ 1 มิ.ย.64 พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. จะแถลงความคืบหน้าคดีคดีน้องฟลุ๊คเสียชีวิต สน.ดินแดงสำคัญในห้วงที่ผ่านมา

อีจันปักหมุดคดีนี้ หากมีความคืบหน้าจันจะรายงานให้ทราบต่อไป