
จากเหตุการณ์ ไฟไหม้รถตู้โดยสาร รับส่งผู้โดยสารจากอำนาจเจริญมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 21.30 น.เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย รอด 1 ราย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบซากรถเบื้องต้น ไม่พบความผิดปกติของถังแก๊สที่ติดตั้ง ร่อยรอยการเฉี่ยวชน การเบรกกระทันหัน จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ได้ แต่คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากน้ำมันรั่วเพราะรถพลิกคว่ำ
ทั้งนี้ยังไม่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งคืนญาติ เนื่องจากไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่า ร่างไหนเป็นใคร ชื่ออะไร เพราะถูกไฟไหม้ร่างดำเป็นตอตะโก จึงต้องทำการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเสียก่อน จึงนำส่งญาติต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค. 66) เวลา 09.30 น. ที่ โรงพยาบาลสีคิ้ว จ.นครราชสีมา นำโดย นายบรรพรต เกิดแก้ว เจ้าหน้ากู้ภัยฮุก31 นครราชสีมา หัวหน้าชุดที่นำร่างของผู้เสียชีวิตไปส่งยัง โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทางมูลนิธิฮุก31 นครราชสีมา ได้นำรถพยาบาลฉุกเฉินทั้งหมด 5 คันรถไปรอรับร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย จากอุบัติเหตุดังกล่าว เพื่อทยอยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไป พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลที่ สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
ซึ่งมีผู้เสียชีวิตดังนี้
กลุ่มที่ 1 คนขับรถตู้โดยสาร 1 ราย
กลุ่มที่ 2 ผู้โดยสารผู้ใหญ่ 8 ราย
กลุ่มที่ 3 ผู้โดยสารเด็กเล็ก 2 ราย (ผู้หญิงอายุ 7 ขวบ เด็กผู้ชายอายุ 6 ขวบ)
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปยังญาติของผู้เสียชีวิตทุกรายให้เดินทางไปพร้อมกับร่างของผู้เสียชีวิต เพราะเมื่อไปถึง สถาบันนิติเวช ทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการ เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ (DNA) เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับร่างผู้เสียชีวิตแต่ละราย และเมื่อดำเนินการตรวจพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว ทางญาติก็สามารถรับร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลได้ทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลให้แล้วเสร็จไวที่สุด
อีจีนมีโอกาสได้คุยกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายสุทธิวัส อายุ 56 ปี เล่าว่า ช่วงตรุษจีน ภรรยาของตนขอกลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าแม่ซึ่งโดยปกติแล้วเธอไม่เคยทำ และยังไม่บอกคนในหมู่บ้านคล้ายจะสั่งเสียว่า "หากเธอเป็นอะไรไปฝากดูแลแม่ด้วยนะ" หลังจากนั้นเธอก็จากไปจริงๆ ในอุบัติเหตุครั้งนี้
นายสุทธิวัส เล่าเพิ่ม ตนยังติดใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ รถตัดหน้า หรือว่าคนขับหลับใน อยากให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้เต็มที่ แล้วออกมาชี้แจงความจริง รับผิดชอบสิ่งที่เกิดให้ความเป็นธรรมกับคนที่สูญเสียด้วย
ส่วนในเรื่องของทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตนั้น ทางญาติได้ติดต่อขอรับคืนไปแล้ว แต่หากมีทรัพย์สินใดที่ยังสูญหาย หรือหาไม่พบ ก็สามารถเข้าไปที่ สภ.สีคิ้ว แจ้งกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ติดตามหาทรัพย์สินมาคืนให้กับทางญาติได้ต่อไป
ทั้งนี้หลังร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 11 ราย ได้รับการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลเรียบร้อยแล้ว ลุงอู๊ด ประธานมูลนิธิเพชรเกษม จะดำเนินการจัดรถไว้รอรับญาติของผู้เสียชีวิตที่จังหวัดอำนาจเจริญเพื่อเดินทางมาที่ สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากต้องเซ็นรับร่างของผู้เสียชีวิตก่อนนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนโลงที่ใช้สำหรับบรรจุศพนั้นลุงอู๊ดจะขอเป็นผู้จัดการให้ทั้งหมด รวมถึงรถห้องเย็นที่ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายร่างเพื่อที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปส่งที่ จังหวัดอำนาจเจริญด้วย
อย่างไรก็ตามในเรื่องของคดี ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าอุบัติเหตุเกิดจากอะไรหรือเป็นความประมาทของใคร ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนจะสรุปสำนวนคดี
ซึ่งหากพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ซึ่งผู้ขับขี่ก็ได้เสียชีวิตลงในที่เกิดเหตุ ในทางกฎหมายก็ถือว่าการดำเนินคดีในส่วนนี้ต้องจบตามไปด้วย