2 แม่ลูก เสียชีวิต จาก ไฟไหม้รถทัวร์ขอนแก่น ไม่ทันได้ฉลองวันเกิดลูกครบ 6 ขวบ

ไม่ทันได้ฉลองวันเกิด ! 2 แม่ลูก เสียชีวิต จากเหตุสลด ไฟไหม้รถทัวร์ขอนแก่น พ่อรอฉลองวันเกิดลูกสาววัย 6 ขวบ อยู่บ้าน แต่สุดท้ายต้องกลายเป็นเรื่องเศร้า

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย จากกรณีรถทัวร์โดยสารของบริษัท 407พัฒนา จำกัด รับผู้โดยสารมาเต็มคันรถรวมพนักงานของรถจำนวน 33 คน โดยมีจุดหมายปลายทางที่ กทม. แต่เกิดเหตุการณ์ล้อรถด้านหลังฝั่งขวาระเบิด จนเกิดประกายไฟลุกไหม้รถวอดทั้งคัน ในพื้นที่ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เมื่อกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.64 ที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตคาซากรถ 5 คน ได้รับบาดเจ็บ 12 คน และหนีออกมาได้ 16 คน รวมทั้งหมด 33 คน

โดยเบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 1 ราย คือ นางสาวสุกัญญา อายุ 20 ปี ชาวอุดรธานี ซึ่งพี่ชายของผู้เสียชีวิตรายนี้ อยู่ระหว่างการติดต่อขอรับศพไปประกอบพิธีตามศาสนา

และเมื่อช่วงดึกของวานนี้ ก็ได้ทราบชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มอีก 2 ราย พร้อมกับเรื่องราวสุดเศร้า

น.ส.ปรางค์ทอง อายุ 24 ปี และด.ญ. ปวรรัตน์ อายุ 6 ขวบ

2 แม่ลูก ที่เสียชีวิตจากรถทัวร์มรณะ และวันที่ 13 เม.ย.64 ยังเป็นวันเกิดครบรอบ 6 ขวบของ ด.ญ.ปวรรัตน์ อีกด้วย

นาย วรพงษ์ เสริมทรง พี่เขยผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา ตนเองและภรรยาคือ น.ส.ยุพาวรรณ อายุ 26 ปี พี่สาวคนตาย เดินทางไปรับ 2 แม่ลูกจาก อ.พิมาย จ.นครราชสีมา กลับมาเที่ยวเล่น และพบปะกับครอบครัวที่บ้านเกิด คือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งทั้งคู่มีบ้านพักและทำงานอยู่ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ส่วนสามีก็อยู่ใน อ.พิมาย เช่นกัน แต่เลิกราและแยกกันอยู่ แต่จะรับลูกไปหาพ่อบ้าง

กระทั่งในวันที่ 12 เม.ย.64 ทั้งคู่ต้องเดินทางกลับไปหาอดีตสามีที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อจะร่วมกันจัดงานวันเกิดให้กับ ด.ญ.ปวรรัตน์ ซึ่งจะอายุครบ 6 ขวบในวันที่ 13 เม.ย.64 ตนจึงโทรซื้อตั๋วรถของบริษัท 407 พัฒนา ไปลงที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งมีรถเพียงเที่ยวเดียวในช่วงเย็นวันที่ 12 โดยตนเองและภรรยาได้ขับรถไปส่งที่ บขส.อุดรธานี พอทั้งคู่ลงจากรถก็เดินขึ้นรถทัวร์ทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรมาก บอกเพียงว่าถ้าถึงแล้วจะโทรหา ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่ทราบว่าน้องนั่งอยู่ตรงไหน

พอรถออกเดินทางผ่านไปสักพักน้องโทรมาบอกว่าลืมสายชาร์จเอาไว้ที่รถของตนเอง ให้เก็บเอาไว้ให้ด้วย แล้วก็เงียบหายไปจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น หลังเกิดเหตุได้เช็กไปที่บริษัททราบว่าน้องนั่งอยู่ที่ชั้น 2 บริเวณด้านหลังของรถกับลูกสาวแต่ไม่ทราบว่านั่งฝั่งซ้ายหรือขวา

ก่อนที่จะพากันไปติดต่อเพื่อขอรับศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้มาติดต่ออีกครั้งเพื่อตรวจดีเอ็นเอในวันเปิดทำการคือวันที่ 19 เม.ย.64 ทำให้ตอนนี้ทุกคนรู้สึกกังวลใจ ทำอะไรไม่ถูก อยากจะรับศพทั้งคู่กลับมาประกอบพิธีทางศาสนา

ซึ่งตอนนี้อดีตสามีของผู้ตายพ่อของ ด.ญ.ปวรรัตน์ ได้เดินทางมาที่ขอนแก่นเพื่อจะขอตรวจดีเอ็นเอแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตรวจได้ตามที่ใจต้องการ ตอนนี้พากันอยู่ที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น และในวันนี้ (14 เม.ย.64) จะโทรไปสอบถามกับทางตำรวจอีกครั้งว่าทำไมต้องรอนานขนาดนั้น อยากจะขอตรวจดีเอ็นเอพรุ่งนี้เพื่อรับศพกลับมาจะได้หรือไม่ เพราะในวันที่ 19 ทุกคนก็ต้องกลับไปทำงานเพราะลางานต่อจากวันหยุดยาวไม่ได้แล้ว จนตอนนี้ไม่รู้ว่าจะพากันเริ่มต้นจากตรงไหนหรือว่าต้องทำอย่างไรจึงจะรับศพกลับได้ในวันพรุ่งนี้

อีจันขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ