กทม.เร่งตรวจสอบ ฝาท่อทรุด กลางกรุง เกิดจากสาเหตุใดกันแน่?

จากกรณีรถบรรทุกดิน ตกท่อเก็บสายไฟกลางถนนใจกลางกรุง บริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 และซอยสุขุมวิท 64/2 เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.40 น. ของวันนี้ (8 พ.ย. 66) ในจุดเกิดเหตุมีรถได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 13.23 น. ทีมข่าวอีจันลงพื้นที่ ไปตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าว พบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าว ยังอยู่ในสภาพตกอยู่ในท่อขนาดใหญ่ บริเวณส่วนหัวรถแหงนหน้าขึ้นฟ้า ฝาท่อทั้ง 4 แผ่นอยู่ในสภาพทรุดตัว ใกล้กันมีเครนมาจอดรอเพื่อยกรถบรรทุกขึ้นจากท่อ และเคลื่อนย้ายออกจากจุดดังกล่าว เนื่องจากตอนนี้ถนนถูกปิด รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้

สำหรับการเคลื่อนย้ายรถบรรทุก ออกจากจุดดังกล่าว เป็นไปด้วยความลำบาก และค่อนข้างยาก เนื่องจากฝาท่อขนาดใหญ่ขวางอยู่ อีกทั้งต้องใช้รถแบ็คโฮตักดินถ่ายออกจากรถบรรทุก เพื่อนำดินในรถบรรทุกคันดังกล่าว ไปชั่งน้ำหนักว่าเกินตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ เนื่องจากตามกฎหมายระบุไว้ว่า รถบรรทุกดินพร้อมดินที่บรรทุก ต้องมีน้ำหนัก ไม่เกิน 25 ตัน

นายบอย คนขับรถบรรทุก เล่าว่า ตนเพิ่งขนดินออกมาจากซอย เพื่อไปส่งในเขตปริมณฑล แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ขับผ่านบ่อไปจนเกือบพ้นแล้ว ก่อนจะได้ยินเสียงดังสนั่น และรถค่อยๆไหลลงท่อ ยอมรับว่าตกใจมาก และงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนจะตั้งสติได้และลงมาจากรถ พบรถบรรทุกที่ขับมา ยางระเบิดทั้งหมด 8 เส้น และถังลมระเบิด แต่โชคดีที่ตนไม่ได้รับบาดเจ็บ

ทั้งนี้นายบอยยืนยันว่าดินที่บรรทุกมา มีน้ำหนักไม่เกิน 25 ตันแน่นอน ซึ่งหากชั่งตามความจริง จะอยู่แค่ประมาณ 20 ตันเท่านั้น ซึ่งรถแบ็คโฮได้ตักและ คาดไว้แล้วว่าจำนวนเท่านี้ไม่เกินแน่นอน

ด้านนายสวาท คนขับแท็กซี่เล่าว่า ตนขับตามหลังรถบรรทุกมา ก่อนจะพบว่าฝาท่อ กระเด็นขึ้นมา และตกมาโดนหน้ารถพังยับ ได้รับบาดเจ็บปากแตก และเจ็บแขนเล็กน้อย ทำให้เกิดอาการผวาในการสัญจรไปมา ซึ่งตอนนี้กังวลใครซ่อมรถให้ รถพังขาดรายได้ ซึ่งคาดว่าค่าซ่อมอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นบาท

พนักงานห้างสรรพสินค้า หนึ่งในผู้สัญจรไปมา เล่าว่า ขณะที่ตนขับรถมา ตนได้ยินดังมากเกิดขึ้นบริเวณตรงหน้า ซึ่งในตอนแรกคิดว่า เป็นเสียงตึกถล่ม แม้อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุแต่ยังรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน เมื่อมองมาก็พบว่า มีรถบรรทุกที่อยู่ในสภาพ หน้าแหงนขึ้นฟ้าแล้ว ซึ่งในจังหวะนั้นยอมรับว่ากลัว และตกใจมาก ทำให้เกิดความระแวงในการเดินทาง เพราะไม่รู้ว่า จะเกิดเหตุการณ์ณ์แบบนี้อีกหรือไม่

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. บอกว่า ทางการไฟฟ้านครหลวงแจ้ง คาดว่าจะเคลียร์ถนนจุดเกิดเหตุ ให้แล้วเสร็จภายในเย็นวันนี้ แต่ตนย้ำว่าต้องเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก หากไม่มีความปลอดภัย ก็ไม่กล้าให้เปิดใช้ถนนอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็คล้ายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 วันก่อน มีลักษณะที่เหมือนกัน ซึ่งในจุดเกิดเหตุที่ต้องวางแผ่นคอนกรีต เนื่องจากช่วงกลางคืนจะมีการเปิดออกให้คนลงไป เพื่อทำการก่อสร้าง และวางโครงการสายไฟลงดิน

ซึ่งอุบัติเหตุในครั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่ คนขับแท็กซี่ บาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลก่อนจะกลับมายังจุดเกิดเหตุแล้ว และคนขับรถส่งอาหาร 2 รายได้รับบาดเจ็บหนัก ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาแล้ว

เหตุการณ์นี้ยังต้องรอดู ว่าสาเหตุแท้จริงแล้วเกิดจากฝาท่อกลางถนน ที่ไม่ได้คุณภาพหรือไม่ หรือเกิดจากการบรรทุกที่เกินตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ต้องติดตามกันต่อ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม อีจันจะรีบอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง