เวียนบรรจบกลับมาเจอเป็นคำรบที่ 3 แล้วสำหรับโปรแกรมบอลบิ๊กแมตช์ ศึกแดงเดือด ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล หลังก่อนหน้านี้พบกันไปแล้ว 2 เกมด้วยกัน คือเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อช่วงต้นฤดูกาลที่จบลงด้วยสกอร์ 0-0 และเกมที่ 2 ในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่จัดอยู่ในแมตช์แห่งปีก็ว่าได้เพราะเป็นเกมที่ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกแลกกันแบบไม่มีใครยอมใคร และเป็นฝั่งปีศางแดงที่พลิกยิงแซงชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-3
แต่อย่างไรก็ตามผลงานโดยรวมของทั้ง 2 ทีมนั้นช่างต่างราวฟ้ากับเหว โดยเฉพาะ แมนยู ที่ 6 นัดหลังสุดในทุกรายการพวกเขาแพ้ไปถึง 2 นัด เสมอ 1 นัด ส่วนอีก 3 นัดแม้ว่าจะเอาชนะคู่แข่งมาได้ แต่ฟอร์มการเล่นก็กระท่อนกระแท่นซะเหลือเกิน กองหลังพร้อมเสียประตูอยู่ตลอดเวลา ส่วนเกมรุกก็ตื้อตัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ เอริค เทน ฮาก ยังแก้ไม่ตก ซึ่งนั่นก็ส่งผลไปถึงอนาคตการคุมทีมของเจ้าตัวที่เริ่มไม่มั่นคง
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Manchester United
แต่กลับกันฝั่งของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล อย่างที่ทราบกันว่าฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลสุดท้ายของกุนซือชาวเยอรมัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่เตรียมอำลาทีมไป เดิมทีแฟนหงส์แดงต่างกังวลว่าจู่ๆ บอส มาประกาศอำลาทีมแบบนี้จิตใจนักเตะจะเป็นอย่างไร ข้อนี้นักเตะหงส์แดงทุกคนตอบชัดๆด้วยผลงานในสนามแล้วว่าทุกแมตช์ ทุกเกมต่อจากนี้เพื่อบอส เพื่อเจ้านายของเขาอย่างเต็มที่ แม้จะมีปัญหาตัวเจ็บมากมาย แต่ ลิเวอร์พูล ก็เดินหน้าเอาชนะคู่แข่งมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะหมดสิทธฺ์คว้า 4 แชมป์ แต่พวกเขาก็ได้มาแล้ว 1 คือ คาราบาว คัพ ส่วนอีก 2 รายการอย่าง ยูโร ป้า ลีก และ พรีเมียร์ลีก ก็ยังคงอยู่ในเส้นการลุ้นแชมป์
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Manchester United
สำหรับความพร้อมของทั้งสองทีมก่อนเกมนี้ เริ่มกันที่ แมนยู เจ้าถิ่น พรีเมียร์ลีกนัดกลางสัปดาห์พวกเขาต้องเจอกับปัญหาเดิมๆ อีกครั้ง ทั้งที่เป็นฝ่ายนำ เชลซี 3-2 ก่อนจะมาโดน สิงห์บลู ยิง 2 ประตูรวดช่วงทดเวลาแซงชนะไปได้ 4-3 ผลจากความพ่ายแพ้ในแมตช์นี้ ทำให้โอกาสการไปเล่นฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า เลือนลางลงไปทุกที ด้านตัวผู้เล่นก่อนเกมแดงเดือด เทน ฮาก ก็ยังต้องปวดหัวกับผู้เล่นแนวรับต่อไป เมื่อตัวหลักบาดเจ็บเพียบ ทั้ง ลุค ชอว์, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, ราฟาเอล วาราน และ จอนห์นี่ อีแวนส์ โดย 2 รายหลังนี้มีอาการบาดเจ็บจากเกมพ่าย เชลซี ทำให้คู่เซ็นเตอร์ตอนนี้จะเหลือเพียง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เป็นตัวหลักเพียงคนเดียว โดย วิลลี่ คัมบวาล่า กองหลังดาวรุ่งน่าจะได้โอกาสลงเล่น ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ เหลือเช็กความฟิตของ คาเซมิโร่ กองกลางชาวบราซิลอีกครั้งว่าจะพร้อมลงสนามหรือไม่
ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ก Liverpool FC
ส่วนทีมเยือน ลิเวอร์พูล สภาพทีมถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ ตัวหลักยังอยู่กันครบ ส่วนคนอื่นๆที่บาดเจ็บอยู่นั้นก็ยังอยู่ระหว่างพักฟื้นต่อไป อาทิ ดิโอโก้ โชต้า, โจเอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ติอาโก้ อัคคันทาร่า, สเตฟาน เบเชติก และ อลิสซง เบคเกอร์ ส่วน วาตารุ เอนโด นั้น ต้องรอเช็กสภาพร่างกายหลังปีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามล้างแค้น แมนยู
เกมนี้คาดว่าทั้งสองทีมคงจะเปิดแลกกันเหมือนใน เอฟเอ คัพ แต่ ลิเวอร์พูล มีบทเรียนมาแล้ว เช่นเดียวกับ แมนยู ที่พวกเขาต้องแก้ปัญหาเกมรับ และความแน่นอนในจังหวะชี้ขาดเกมให้ได้ ซึ่งศึกแดงเดือดนี้จะมีความพิเศษกว่าแมตช์อื่นๆ อยู่อย่างหนึ่ง คือการคาดเดาผลการแข่งขันได้ยาก ก่อนเกมไม่ว่าทีมไหนจะฟอร์มดีหรือฟอร์มห่วย แต่พอมาเจอกันทุกอย่างจะกลับมาเท่ากัน และวัดกันในสนามไปเลย เกมนี้ ลิเวอร์พูล จำเป็นที่จะต้องชนะถ้าอยากหนาวมากต่อไป ส่วน แมนยู ฏ้ต้องการชัยชนะเช่นกัน เพื่อเกาะกลุ่มลุ้นทำคะแนนไปเล่นฟุตบอลบอลยุโรป ส่วนสกอร์ที่คาดนั้นสื่อต่างประเทศให้ผลการแข่งขันที่หลากหลายทั้ง ลิเวอร์พูลชนะ แมนยูชนะ หรือเสมอกัน ส่วน อีจัน ขอฟันธงให้ แมนยู ชนะ 3-2
คาดการณ์ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
แมนยู
ผู้รักษาประตู : อังเดร โอนาน่า กองหลัง : อารอน วาน-บิสซาก้า วิลลี่ คัมบวาล่า แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ดิโอโก้ ดาโลห์ กองกลาง : สก็อต แม็คโทมิเนย์ ค็อบบี้ ไมนู บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองหน้า : อเลฮานโดร การ์นาดช่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ราสมุด ฮอยลุนด์
ลิเวอร์พูล
ผู้รักษาประตู : ควีวิน เคลเลเฮอร์ กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์จ อิบราฮิมา โกนาเต้ โจ โกเมซ กองกลาง : อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ วาตารุ เอ็นโด โดมินิค โซบอสซ์ไล กองหน้า : หลุยส์ ดิอาซ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาร์วิน นูนเญซ